Saturday, July 13, 2019

สมดุล = ความสุข : ไม่สมดุล = ?

(Photo : britishcinematographer.co.uk)



ได้มีโอกาสกลับไปนั่งอ่านบทความเก่าๆ
เรื่องเกี่ยวกับวนลูป ธรรมชาติ
เลยนึกต่อไปถึงเรื่องสมดุล
แล้วชุดความคิดมันก็เข้ามา
เป็นเรื่องของสมดุลในช่วงเวลาหนึ่ง
หมายถึง
สมดุล หรือ balance
เรามองตามธรรมชาติแล้ว
สมดุลนั้นไม่สามารถเกิดได้แบบหยุดนิ่ง
แต่ต้องอยู่ในสภาพเสมือนหยุดนิ่ง

ถ้าใครไม่เข้าใจ เราหมายถึง
สมดุลนั้นเราไม่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
มันจะเกิดขึ้นเพียงช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น
(ช่วงเวลาสั้นๆ แต่ความสั้นยาวขึ้นกับความคิดแต่ละคน)
----------

มันก็มีข้อให้น่าคิดที่ว่า
แล้วสมดุลระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์หละ?
เราก็เลยมาคิดต่อว่าจริงๆมันก็สมดุลแค่ช่วงเวลาหนึ่งเหมือนกัน
แต่ช่วงเวลานั้นยาวนานกว่าบนโลกเรา
เป็นธรรมชาติที่กินเวลานานกว่าแค่นั้นเอง
เห็นว่าราวๆ5,000ล้านปีต่อจากนี้กว่าดวงอาทิตย์
มันจะเสียสมดุลและเข้าสู่ภาวะอื่นๆต่อไป
หรือที่เค้าว่าโลกจะถูกดวงอาทิตย์ขยายตัวจนโลกแตก
และดวงอาทิตย์กลายสภาพ
เป็นไปตามการ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป
ที่กินเวลายาวนานกว่าช่วงชีวิตมนุษย์เท่านั้นเอง

เลยได้ข้อคิดว่า งั้นสมดุลที่ดี
คือสมดุลที่สามารถอยู่ได้นานพอกับช่วงเวลาหนึ่ง
และสถานการณ์หนึ่ง นั่นก็เพียงพอแล้ว
เพราะทุกอย่างยังคงเป็นไปตามวัฎจักร
ที่เกิดขึ้น ดำรงอยู่ และดับไป
----------

หลุดไปไกลละกลับมาก่อน
แล้วมันเกี่ยวอะไรกันกับชีวิต
หรือทำไมเราต้องเขียนบันทึก

เพราะมนุษย์เรามีอายุขัยซึ่ง
ค่อนข้างแน่นอน มีค่าเฉลี่ยชัดเจน
การสร้างสมดุลในชีวิต
สมดุลงานกับชีวิตเราจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม
เราสามารถทำให้เกิดขึ้นเพียงชั่วขณะเวลาหนึ่ง
ทำให้เราสนุกกับการทำงานไปพร้อมการใช้ชีวิตได้
เช่นในช่วงวัย30-40ก็เพียงพอแล้ว
เราไม่ต้องทำให้สมดุลเกิดตลอดชีวิตเราก็ได้

เพราะมันก็จะเป็นไปตามกลไกธรรมชาติ
เมื่อช่วงสมดุลเข้ามา มันจะผ่านไป
แล้ววนลูปไปสู่ช่วงที่ดีดตัวออกจากสมดุล
และวนกลับเข้าสู่สมดุลต่อไป
เป็นวนลูป วนซ้ำแบบนี้ต่อไป

มันก็สอนเราต่อไปว่า
ไม่มีอะไรคงอยู่ได้ตลอดไป
เราต้องรู้จักเสพความสุขในช่วงเวลานั้น
ไม่แม้แต่ช่วงเวลาที่เราทุกข์
เราก็ต้องรู้จักเสพความสุขจากช่วงเวลาเหล่านั้น
--------------

แต่ก็ใช่ว่า.....
เราต้องไปนั่งสร้างสมดุลให้ชีวิตเสมอไป
ถ้าเราตระหนักว่าช่วงเวลานี้ในชีวิตของเรา
กำลังอยู่ในช่วงดีดออกจากสมดุล
ทำอะไรก็รู้สึกเหนื่อย ท้อ เครียด
"ปรับความคิด"ได้ด้วยการตระหนักรู้
ว่าสุดท้ายแล้ว ธรรมชาติจะมอบสมดุล
ให้กับชีวิตเราในช่วงเวลาหลังจากนี้แน่นอน
เปรียบเหมือนเป็นPositive thinking
ก็ได้(มั้ง) ทำให้เราไม่คิดมากเกินไป
และมีความสุขไปกับช่วงเวลาตกต่ำ
กล้าสู้กับมันเพื่อสมดุลที่จะตามมา
เหมือนเราได้มีเป้าหมาย แรงผลักดัน
ให้กับช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต
เพื่ออีกช่วงเวลาหนึ่งที่ดีของชีวิตจะตามมา

ถ้าไม่หลังขดหลังแข็งอ่านหนังสือ
แล้วจะมีความรู้ในสมองได้อย่างไร
ว่าแล้ว วันที่20สอบ
อ่านหนังสือดีกว่าเรา
เกร็งไว้ว่าผ่าน1ตก1แน่นอนฟันธง
-------------

สรุปจริงๆแล้วเราแค่อยากจะสื่อว่า
สมดุลไม่เคยเกิดขึ้นนานพอให้เราเสพได้สาสมใจ
แต่เราต้องรู้จักเสพความสุขจากความไม่สมดุลด้วยเช่นกัน
อย่าปล่อยให้ความทุกข์และแง่ลบต่างๆมาครอบงำชีวิตเรา
เมื่อเราเข้าใจทุกอย่างล้วนอนิจจัง เราก็จะมีความสุขได้ในทุกวัน
จริงๆเขียนแค่3-4ประโยคก็น่าจะพอ เอองงตัวเอง



ปล. เขียนเองอ่านเองงงเอง อนาคตถ้ากลับมาอ่าน รบกวนพัฒนาทักษะการเรียบเรียงใหม่ด้วย


























“ You trust the quality of what you know, not quantity. ” : Mr Miyagi


Goodluck,
Introvert man.

No comments:

Post a Comment