Sunday, July 07, 2019

ลัทธิ หรือ ศาสนา : เต๋า

(Photo : wikiwand.com/)


ลัทธิเต๋า(เต๋าเจีย)
หมายถึง "มรรคา" สื่อไปในแง่ของวิถีทางและหลักการ
หมายถึงสิ่งที่เป็นธรรมชาติ เกิดมีขึ้นเอง เป็นนิรันดร์ ไร้ชื่อเรียกขาน
และไม่สามารถอธิบายได้ สิ่งนี้เป็นทั้งจุดเริ่มต้นของสรรพสิ่ง
และเป็นวิถีที่ทุกสรรพสิ่งดำเนินไปตาม

แต่ในสมัยนี้กลายพันธุ์ไปเป็นศาสนาแล้ว
ส่วนตัวชอบในสมัยที่ยังคงเป็นปรัชญา
มีความต้องการผสานมนุษย์ไปตามธรรมชาติ
โดยไม่ขัดขืนและเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับธรรมชาติ

ลัทธิเต๋าให้ความสำคัญกับกฏธรรมชาติ
และไม่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาเกี่ยวข้อง
ศาสนาเต๋ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์และพิธีกรรม
งานวิจัยที่เราเคยอ่านเค้าบอกว่า
ศาสนาเต๋านำเอาแนวคิดเกี่ยวกับ
ชีวิตและธรรมชาติของลัทธิเต๋ามาประยุกต์ใช้
-------

เล่าจื้อเองผู้ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นศาสดา
ในขณะที่มีชีวิตอยู่ก็ไม่เคยประกาศตัวเป็นศาสดา
และไม่เคยประกาศตั้งศาสนาเต๋า

เราชอบบทคำสอนของเล่าจื้อในหลายๆส่วน
แม้ผ่านกาลเวลามานานมากก็ยังนำมาปรับใช้ได้
โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้
ช่วงเวลาที่มนุษย์เริ่มห่างเหินธรรมชาติไปในทุกวัน

เล่าจื๊อสอนไว้ว่า
”คนดีที่สุดมีลักษณะเหมือนน้ำ น้ำทำประโยชน์ให้แก่ทุกสิ่ง และไม่พยายามแก่งแย่งแข่งดีกับสิ่งใดๆ เลย น้ำขังอยู่ในที่ต่ำที่สุด ซึ่งเป็นที่ใกล้เต๋า…”

เล่าจื๊อได้กล่าวไว้ว่า
ชาวโลกทั้งปวงกล่าวว่าข้าพเจ้าเป็นนักปราชญ์
ข้าพเจ้าหาได้เป็นดังคำกล่าวของคนทั้งหลาย
แต่ข้าพเจ้ามีสมบัติอันเป็นแก้ว 3 ประการ อยู่ในตัวข้าพเจ้า
ที่คนทั้งหลายควรดูแลและรักษากันไว้ให้ดีคือ
1. ความเมตตากรุณา
2. ความกระเหม็ดกระแหม่(มัธยัสถ์)
3. ความอ่อนน้อมถ่อมตน
เพราะมีความเมตตากรุณา บุคคลก็ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น
เพราะมีความกระเหม็ดกระแหม่ บุคคลก็ร่ำรวยได้
เพราะมีความอ่อนน้อมถ่อมตน บุคคลก็สามารถมีสติปัญญาเจริญเต็มที่ได้
ถ้าละทิ้งเมตตากรุณา รักษาไว้แต่ความกล้าหาญ
ถ้าละทิ้งความสำรวม รักษาไว้แต่อำนาจ
ถ้าละทิ้งการตามหลัง แต่ชอบรุดออกหน้า เขาก็ตาย
-------------

ถ้ามองอีกมุมก็อาจจะบอกได้ว่าเล่าจื้อนั้นโง่เกินไป
ไม่เข้าใจธรราชาติและจิตใจของมนุษย์เอาเสียเลย
หรือจะมองว่าเล่าจื้อนั้นเข้าใจจนลึกซึ้ง
จึงอยากให้มนุษย์พ้นทุกข์กิเลศทั้งหลาย
ที่เกิดจากการไม่ปล่อยวางในชีวิต

มุมมองต่างๆก็มีการผสานหลายๆศาสนาเข้ามาด้วย
ทั้งพุทธ เทวนิยม อเทวนิยม ไสยศาสตร์ และอื่นๆมากมาย
จริงๆพื้นฐานที่เกิดจากปรัชญานั้นดีแล้ว
อาจจะได้รับอิทธิพลมาจากอินเดียสมัยนั้น
หรือไม่ว่าอย่างไรวันนี้มันถูกเปลี่ยนแปลงไปมาก

ส่วนตัวก็เลยยังชอบศึกษาปรัชญา
ไม่ว่าจะชาติพันธุ์ไหนก็ตาม
มนุษย์เรานั้นแทบไม่ต่างจากเมื่อก่อนเลย
ยังคงวนเวียนอยู่กับโลภะมากมาย
แค่โลภะนั้นเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ไปตามเวลา
แต่ยังคงมอมเมามนุษย์ได้ร่ำไป

ทั้งศาสนาพุทธและเต๋าที่เราชอบเป็นพิเศษนั้น
เรามองว่าจริงๆแก่นกลางของทั้งสองนั้นดีมาก
ดีมากแล้ว แต่มนุษย์นั้นยังคงไม่พอ
จึงเติมแต่งพลังวิเศษและอิทธิฤทธิ์เข้าไปมากมาย
จนกลายพันธุ์กันไป
และทั้งยังผสมข้ามสายพันธุ์กับความเชื่ออื่นๆด้วย
จนกลายร่างมาเป็นอย่างทุกวันนี้
เราได้แต่รำพึงว่า"น่าเสียดายนัก"


















“ Believe in yourself! Have faith in your abilities! Without a humble but reasonable confidence in your own powers you cannot be successful or happy. ” : Norman Vincent Peale


Goodluck,
Introvert man.

No comments:

Post a Comment