Saturday, July 27, 2019

1stPDIMHT : Week21 : พ่อรถไฟเหาะ

https://www.myfxbook.com/members/superman_hero/1stpdimht/3337248
เข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามลิงค์
-------------------


พอร์ทPAMMสัปดาห์ที่ผ่านมา
ยังคงเก็บCFไม่ได้
และยังคงBuy&Holdต่อไป

Equityเหวี่ยงมากๆจากสัปดาห์ก่อน
และต่อเนื่องมาสัปดาห์นี้ ข่าวหนักมาก
วันนึงบวกลบกว่า$100 หรือเกือบ10%ของพอร์ท
และเพราะว่าทั้งพอร์ทเป็นGBPหมด
ซึ่งไม่ค่อยสวยเท่าไหร่

แผนยังคงเดิม รอGBPบินสำหรับพอร์ทนี้
พอร์ทอื่นๆยังคงเก็บCFได้เรื่อยๆ
จึงพึงพอใจกับทั้งการลงและสวิงขึ้นลง
-----------

DDเพิ่มมาทำAll time highซ้ำแล้วซ้ำอีก
อยู่ที่20.07% ใน Mql5อยู่ที่ 21%
ก็ถือว่าไหลเข้าสู่ช่วงที่รับได้
แต่ถ้าเกิน30%ขึ้นไปต้องเฝ้าระวังแล้ว
แต่ตอนนี้ยังไม่เกิน ก็นอนชิวต่อไป


























“ Whatever you are inside, the good and bad will manifest in the outside world. It will come out in some way. It will come out in your work. It will come out in words. It will come out. ” :  Hrithik Roshan


Goodluck,
Introvert man.

CWS-2019 : จบWeek30 : นั่งฝัน นอนฝัน

https://www.myfxbook.com/members/Cassowaryleague/cws-2019-swingtrade-imht-pipatara/2793222
เข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามลิงค์
-------------------


พอร์ทCassowaryสัปดาห์ที่ผ่านมา
หมดคำอธิบาย แต่ก็ยังคงต้องมาทำบันทึก
ช่วงนี้เป็นช่วงที่ได้มีโอกาสทำเรื่องอื่นๆเยอะขึ้น

และมีplanทำระบบอื่นๆเยอะมากขึ้น
เลยเหมือนกับนั่งฝัน นอนฝัน
เพราะยังไม่เกิดการลงมือทำ
----------

























“ I don't really get nervous that much, or if I do, only I know. It's all inside me. I am good at hiding everything. ” : Billie Eilish


Goodluck,
Introvert man.

Thursday, July 25, 2019

ความสุข > ความสำเร็จ


(Photo : earthsky.org)


ในที่สุดก็ค้นพบว่าความสุขจะถูกบรรจุอยู่ในอะไรสักอย่าง
เช่น อยู่ในสิ่งของ อยู่ในบุคคล อยู่ในสถานที่ หรืออะไรสักอย่าง
ซึ่งเป็นสิ่งที่ปัจเจกบุคคลเท่านั้นจะรู้สึกต่อมัน

ความพิเศษที่ไม่อาจอธิบายได้ต่ออะไรสักอย่าง
มันคือศิลปะอันทรงคุณค่าที่สุด
เราจ้องมองงานศิลปะชิ้นนึง
1คน5ความรู้สึก 1คน10มุมมอง
ความสุขก็เช่นกัน ความสุขอยู่ที่บุคคลนั้นจะมอง
และมีอารมณ์ร่วมไปกับมัน
มันคืออะไรที่ไม่ตายตัว และไม่มีใครเข้าใจได้

เราเองก็อธิบายอย่างละเอียดไม่ได้
แต่เราว่าทุกคนเข้าใจว่าความสุขเป็นอย่างไร
ความสุขไม่มีขอบเขตของเวลา
ความสุขมีและไม่มีตัวตนในเวลาเดียวกัน
ความสุขทรงพลังและวิเศษ
ความสุขส่งต่อกันได้อย่างไม่น่าเชื่อเลย
ความสุขเป็นอะไรมากกว่าความสำเร็จ
ความสุขช่างทรงพลังมากนัก

ถ้าคุณพบว่าความสุขอยู่ในรองเท้า
คุณจะเพลิดเพลินไปกับการสวมใส่มัน
คุณจะเพลิดเพลินไปกับการรับรู้สัมผัสจากมัน
ถ้าคุณพบว่าความสุขอยู่ในทุกสิ่งรอบตัว
แม้กระทั่งความล้มเหลว หรือความอับอาย
คุณก็จะเพลิดเพลินไปกับมันได้อย่างมีความสุข

ความสุขของคุณอยู่ในไหน?
คุณบรรจุมันไว้กับอะไรที่ไหนหรือกับใครบ้าง?

สุดท้ายถ้าคุณมองฟ้าคุณจะมีความสุขเหมือนเราไหม?
สำหรับเราความสุขมีค่ามากกว่าความสำเร็จ
เราได้คำตอบให้กับชีวิตเราเพิ่ม1อย่าง
และยังคงตามหาคำตอบอีกมากมายต่อไป

เราหวังว่าทุกคนจะมีคำตอบในใจตัวเองแล้วเช่นกัน



















“ How strange that nature does not knock, and yet does not intrude! ” :  Emily Dickinson


Goodluck,
Introvert man.

Wednesday, July 24, 2019

INFJ : idrlabs.com


ไม่มีอะไร เรามาแปะบันทึกผลทดสอบเฉยๆ
เราทำไปเรื่อยๆ ลองไปทำให้มากที่สุด
วันนี้ก็ลองทำแบบทดสอบของฝรั่งอีก
ผลก็ออกมาเหมือนเดิมคือ INFJ
ซึ่งเว็ปนี้ก็ไม่มีอะไรมาก
มีyoutubeให้ฟังว่าเป็นอะไรยังไง




แล้วก็มีรายละเอียดบุคคลต่างๆ
ที่มีลักษณะเหมือนเราอยู่ในกลุ่มINFJ
ดูสายขาวไปแล้วมาดูสายมืดกันบ้าง
ตัวโหดทั้งนั้นเลย

และดาราที่เราชอบ
แต่ละคนมีเอกลักษณ์โดดเด่นจริงๆ


ภาพสุดท้ายก็แปะมาให้อ่านกัน
คร่าวๆสำสหรับINFJ

โดยทั้งหมดที่แปะให้
สามารถเข้าไปดูได้เองทั้งหมดที่
https://www.idrlabs.com/infj.php
ขอให้สนุกกับตัวเองกันนะครับ



เข้าไปทดสอบได้กันที่




















“ The Sun, Moon and Stars are there to guide us. ” :  Dennis Banks


Goodluck,
Introvert man.

Monday, July 22, 2019

ภาพยนต์ที่ทำให้เราต้องกลับมาทบทวนเส้นทางของชีวิตใหม่อีกครั้ง

(Photo : About time)



บทความนี้เขียนจากอารมณ์ขณะดูภาพยนต์จบเป็นรอบที่นับไม่ถ้วน
และผ่านเหตุการณ์ชีวิตต่างๆมากขึ้นนับจากครั้งแรกที่เคยได้ดู
แน่นอนว่าอีก20ปีจากนี้ ก็ต้องมีมุมมองที่เพิ่มเติมต่อไป

ภาพยนต์เรื่องนี้เป็น1ในไม่กี่เรื่องที่เราหยิบมาดูซ้ำ
ซ้ำหลายรอบมากๆ ทั้งตัวบท คนคัดนักแสดง
สีแต่ละฉาก เสื้อผ้า มุมกล้อง องค์ประกอบทุกอย่าง
และเหตุผลหลักๆเลยคือ...
"พ่อพระเอก"
ทั้งตัวนักแสดง บทพูด การยิ้ม การพูด การออกท่าออกทาง
ทุกๆอย่างที่เป็น มันลงตัวไปหมด

เราชอบ ชอบไม่พอต้องเรียกว่า เค้าคือต้นแบบชีวิต
ต้นแบบแนวความคิด ต้นแบบหลักการชีวิต
ที่เราได้ดูในครั้งแรกและนึกกับตัวเองมาตลอด
ว่านี่แหละคือสิ่งที่เราอยากจะเป็น
เราใช้คำว่าอยากจะเป็น เพราะเราไม่ได้เกิดมาเป็น
เราต้องขัดเกลาและเรียนรู้อีกมาก
ถึงจะพัฒนาตัวเองไปได้ไกลขนาดนั้น
-----------

ซึ่งเวลาผ่านมาก็หลายปีพอสมควรจากวันนั้น
วันนี้เราก็ปรบมือให้ตัวเองเบาๆ เราก้าวหน้า
ไม่มากก็น้อย
เราพยายามเดินตามทางที่เป็นไปได้ยาก
พื้นฐานทุกๆอย่างของเราแทบจะไม่ใช่อะไร
ที่จะสามารถไปจบที่นิสัยอย่างพ่อของพระเอกได้เลย

ซึ่งด้วยพื้นฐานเหล่านั้น เราจึงต้องพยายามอย่างหนัก
ขัดเกลาอย่างมาก แต่หนทางชีวิตมันก็ไม่ง่ายเลย
เราออกนอกลู่นอกทางไปบ้าง(ก็บ่อยเลยแหละ)
แต่เมื่อได้กลับมาฟังเพลงประกอบภาพยนต์
และได้กลับมาดูซ้ำไปซ้ำมา เหมือนมีแม่เหล็ก
มาดูดให้เรากลับไปในหนทาง และก้าวเดินอย่างหนักต่อไป

ซึ่งภาพยนต์เรื่องนี้ออกมา มันได้สร้างคลื่นลูกใหญ่
ที่มากระแทกชีวิตของเราอย่างจัง
จนชีวิตเราหันเหไปอีกทิศทางตลอดกาล
นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราอยากพัฒนา ขัดเกลาตัวเอง
เพื่อไปสร้างคลื่นสักลูกนึง ให้พลิกผันชีวิตใครสักคนนึง
ทำให้ชีวิตเค้าดียิ่งๆขึ้นไปตลอดกาล
-------------------

ฉากที่ดูแล้วร้องไห้จริงๆคือฉากที่พระเอก
กลับมาหาและเล่นปิงปองกับพ่อตัวเองเป็นครั้งสุดท้าย
ก่อนที่เค้าจะสูญเสียพลังตรงนี้ไป
เป็นฉากที่เราสะดุ้งจนต้องหันมาถามตัวเอง
เราจะปล่อยให้ชีวิตเราเป็นอย่างนี้ต่อไปได้อีกนานแค่ไหน
ทั้งๆที่เราไม่มีพลังแม้แต่จะย้อนกลับไปได้สักวินาทีเดียว
เวลากำลังเดิน และเรากำลังสูญเสียบางอย่างตลอดเวลา

บทพูดที่ดีที่หลายๆเพจและหลายๆคนคงเคยได้ยินมาบ้าง
แต่..ยังคงเป็นสิ่งที่ยากในการลงมือทำให้ได้อย่างสม่ำเสมอนั่นคือ
"ผมพยายามใช้ชีวิตทุกวัน ราวกับผมได้ย้อนกลับมาแก้ไขมันแล้ว
เพื่อมีความสุขกับมัน ราวกับมันเป็นวันสุดท้ายที่สมบูรณ์"
เรามองว่าตรงนี้คือทัศนะที่ดีมากๆ
เป็นทั้งมุมมองของการไม่หนีปัญหา
ทั้งมุมมองของการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
และมุมมองต่อชีวิตที่มีความสุขสมบูรณ์
อันปราศจากความทุกข์ที่เกิดจากการมองโลกหรืออุปสรรคในแง่ร้าย

และสุดท้ายนี้ขอจบการบันทึกความสุขความทรงจำ
ไว้ด้วยประโยคที่สวยงามจากตัวภาพยนต์About Time
"เราต่างเดินทางผ่านกาลเวลา ทุกๆวันในชีวิตของเรา
มีสิ่งที่เราพอจะทำได้คือ ทำให้ดีที่สุด
เพื่อลิ้มรสชาติ เส้นทางชีวิตอันแสนพิเศษนี้"
หวังว่าบทความของเรา
หรือภาพยนต์เรื่องนี้
จะให้แง่คิดกับทุกคนเช่นกัน
ไม่มากก็น้อย
เมื่อคุณกล้าก้าวเดิน เราจะก้าวไปพร้อมกับคุณ
--------


ปล. บันทึกความรู้สึกและความทรงจำของผู้เขียนเท่านั้น ไม่มีเจตนาอื่นใด


















“ Face the facts of being what you are, for that is what changes what you are. ” :  Soren Kierkegaard


Goodluck,
Introvert man.

Saturday, July 20, 2019

1stPDIMHT : Week20 : ATH DD อีกแล้ว

https://www.myfxbook.com/members/superman_hero/1stpdimht/3337248
เข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามลิงค์
-------------------


พอร์ทPAMMสัปดาห์ที่ผ่านมา
เก็บCFไม่ได้เลย
แต่พอร์ทอื่นๆเก็บไปกระจาย
หลังการปรับตัวขึ้นมาเล็กน้อยของGBP

แต่จริงๆก็อยากให้ลงลึกๆอีก
เพราะว่าเดียวมันไม่สุด
แล้วถ้าไม่สุดมันก็จะขึ้นลำบาก
ลงให้สุดไปเลยเถอะจบๆกันไป

รออยู่นะพี่จ๋า
ตอนนี้ก็ยังไม่มีแผนอะไร
เพราะติดดอยอยู่ จบข่าว
-----------

DDเพิ่มมาทำAll time highซ้ำแล้วซ้ำอีก
อยู่ที่20.07% ใน Mql5อยู่ที่ 21%
ก็ถือว่าไหลเข้าสู่ช่วงที่รับได้
แต่ถ้าเกิน30%ขึ้นไปต้องเฝ้าระวังแล้ว
แต่ตอนนี้ยังไม่เกิน ก็นอนชิวต่อไป


























“ Find a place inside where there's joy, and the joy will burn out the pain. ” :  Joseph Campbell


Goodluck,
Introvert man.

CWS-2019 : จบWeek29 : ก้นเหวหรือยัง?

https://www.myfxbook.com/members/Cassowaryleague/cws-2019-swingtrade-imht-pipatara/2793222
เข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามลิงค์
-------------------


พอร์ทCassowaryสัปดาห์ที่ผ่านมา
ยังคงติทำอะไรไม่ได้ ติดดอยยาวมาก
แต่ก็ยังคงรอต่อไป
ถ้าปีนี้ยังไม่หลุด
ก็คงยังเทสระบบไม่ได้


เอาไว้เทสระบบปีหน้าก็ได้
แล้วเอาไปให้ฝรั่งcopyดู
จะเป็นระบบแบบมีsl
คงมีฝรั่งสนใจบ้างมั้ง

----------

























“ It's an art to live with pain... mix the light into gray. ” : Eddie Vedder


Goodluck,
Introvert man.

Friday, July 19, 2019

Digitrade : Copytrade : Welcome backkkk

(Equity Growthนะ ไม่ใช่Balance Growth)


พอร์ทCassowaryของปี2018
ที่เราเคยเทรดนั้นไม่ได้หายไปไหน
เพียงแต่เรานำออกจากMyfxbookแล้ว

ซึ่งเราผูกไว้กับMql5 แต่ติดปัญหานิดหน่อย
ช่วงนี้จึงยังไม่สามารถเปิดให้Copyฟรีได้
(เจ้านี้น่าจะCopyกันได้ง่ายกว่า)
ตรงนี้เราเลยมาบอกกล่าวไว้ว่า
https://my.digitrade.pro/performance/14309
เราผูกพอร์ทนั้นไว้กับเจ้านี้เช่นกัน
สามารถCopyแบบฟรีๆได้เหมือนกัน
----

แต่.....
ควรเปิดเพียงบัญชีเดโม่แล้วนำไปCopy เพราะมันจะฟรี
ถ้าเอาบัญชีจริงไปCopyอาจจะเสียเงินค่าCopyได้
ระวังตรงนี้ด้วย ไม่อยากให้เสียตังค์กัน

บัญชีเดโม่ก็สามารถCopyได้
เอาไว้ดูหรือติดตามพอร์ทนี้ได้
เพราะช่องทางอื่นๆ เราตั้งPrivateไปหมดแล้ว
แต่พอร์ทยังคงดำเนินการเทรดต่อไป

ลักษณะการเทรดของพอร์ทนี้
จะมีการเปลี่ยนแปลงนิดหน่อย
เพื่อเร่งผลตอบแทน(ถ้าทำได้หรือมีโอกาส)
แต่ยังคงข้อจำกัดด้านความเสี่ยงปานกลางเอาไว้
แน่นอนว่า "ไม่ล้างพอร์ท" เป็นหัวใจสำคัญ
----

ต่อจากhttps://im-ht.blogspot.com/2019/07/digitrade-copytrade.html
หลังจากถอนเงินไปแล้ว
และหลังจากติดดอยจนโดนปรับเรทติ้ง
วันนี้เรากลับมาแล้ว เรทติ้งของเรา
กลับมาอยู่ที่65.77
Risk กลับมาที่ Normal






เราก็มาอัพเดทว่าได้ค่าfollowerมาอีกแล้ว
เป็นมูลค่า$20.20
ดีใจหลายๆ แต่ก็ต้องลุ้นไปอีกพักนึง
เพราะว่ากว่าจะถอนได้
ก็ต้องครบ$100โน่นเลย

ก็นั่งขอพรให้Followerของเรา
อยู่กับเราไปยาวๆ
เป็นค่าขนมให้เด็กน้อยคนนี้ด้วย
ขอบพระคุณมากๆ

เราจะพยายามไม่ทำให้ผิดหวัง
แม้ช่วงนี้จะดอยGBPหนักหน่อย
แหะๆ สู้โว้ย
-----






ปล. หวังว่าFollowerจะอยู่กับเราข้ามปี
ปล2. Equityยังโตเรื่อยๆ แม้จะมีเหวี่ยงหนักบ้าง โดยรวมยังโตต่อเนื่อง
ปล3. หวังว่าจะได้ค่าขนมต่อไปเรื่อยๆ




















“ It's crazy how fast time flies and how things progress. ” : Nathan Chen


Goodluck,
Introvert man.

Saturday, July 13, 2019

สมดุล = ความสุข : ไม่สมดุล = ?

(Photo : britishcinematographer.co.uk)



ได้มีโอกาสกลับไปนั่งอ่านบทความเก่าๆ
เรื่องเกี่ยวกับวนลูป ธรรมชาติ
เลยนึกต่อไปถึงเรื่องสมดุล
แล้วชุดความคิดมันก็เข้ามา
เป็นเรื่องของสมดุลในช่วงเวลาหนึ่ง
หมายถึง
สมดุล หรือ balance
เรามองตามธรรมชาติแล้ว
สมดุลนั้นไม่สามารถเกิดได้แบบหยุดนิ่ง
แต่ต้องอยู่ในสภาพเสมือนหยุดนิ่ง

ถ้าใครไม่เข้าใจ เราหมายถึง
สมดุลนั้นเราไม่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
มันจะเกิดขึ้นเพียงช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น
(ช่วงเวลาสั้นๆ แต่ความสั้นยาวขึ้นกับความคิดแต่ละคน)
----------

มันก็มีข้อให้น่าคิดที่ว่า
แล้วสมดุลระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์หละ?
เราก็เลยมาคิดต่อว่าจริงๆมันก็สมดุลแค่ช่วงเวลาหนึ่งเหมือนกัน
แต่ช่วงเวลานั้นยาวนานกว่าบนโลกเรา
เป็นธรรมชาติที่กินเวลานานกว่าแค่นั้นเอง
เห็นว่าราวๆ5,000ล้านปีต่อจากนี้กว่าดวงอาทิตย์
มันจะเสียสมดุลและเข้าสู่ภาวะอื่นๆต่อไป
หรือที่เค้าว่าโลกจะถูกดวงอาทิตย์ขยายตัวจนโลกแตก
และดวงอาทิตย์กลายสภาพ
เป็นไปตามการ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป
ที่กินเวลายาวนานกว่าช่วงชีวิตมนุษย์เท่านั้นเอง

เลยได้ข้อคิดว่า งั้นสมดุลที่ดี
คือสมดุลที่สามารถอยู่ได้นานพอกับช่วงเวลาหนึ่ง
และสถานการณ์หนึ่ง นั่นก็เพียงพอแล้ว
เพราะทุกอย่างยังคงเป็นไปตามวัฎจักร
ที่เกิดขึ้น ดำรงอยู่ และดับไป
----------

หลุดไปไกลละกลับมาก่อน
แล้วมันเกี่ยวอะไรกันกับชีวิต
หรือทำไมเราต้องเขียนบันทึก

เพราะมนุษย์เรามีอายุขัยซึ่ง
ค่อนข้างแน่นอน มีค่าเฉลี่ยชัดเจน
การสร้างสมดุลในชีวิต
สมดุลงานกับชีวิตเราจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม
เราสามารถทำให้เกิดขึ้นเพียงชั่วขณะเวลาหนึ่ง
ทำให้เราสนุกกับการทำงานไปพร้อมการใช้ชีวิตได้
เช่นในช่วงวัย30-40ก็เพียงพอแล้ว
เราไม่ต้องทำให้สมดุลเกิดตลอดชีวิตเราก็ได้

เพราะมันก็จะเป็นไปตามกลไกธรรมชาติ
เมื่อช่วงสมดุลเข้ามา มันจะผ่านไป
แล้ววนลูปไปสู่ช่วงที่ดีดตัวออกจากสมดุล
และวนกลับเข้าสู่สมดุลต่อไป
เป็นวนลูป วนซ้ำแบบนี้ต่อไป

มันก็สอนเราต่อไปว่า
ไม่มีอะไรคงอยู่ได้ตลอดไป
เราต้องรู้จักเสพความสุขในช่วงเวลานั้น
ไม่แม้แต่ช่วงเวลาที่เราทุกข์
เราก็ต้องรู้จักเสพความสุขจากช่วงเวลาเหล่านั้น
--------------

แต่ก็ใช่ว่า.....
เราต้องไปนั่งสร้างสมดุลให้ชีวิตเสมอไป
ถ้าเราตระหนักว่าช่วงเวลานี้ในชีวิตของเรา
กำลังอยู่ในช่วงดีดออกจากสมดุล
ทำอะไรก็รู้สึกเหนื่อย ท้อ เครียด
"ปรับความคิด"ได้ด้วยการตระหนักรู้
ว่าสุดท้ายแล้ว ธรรมชาติจะมอบสมดุล
ให้กับชีวิตเราในช่วงเวลาหลังจากนี้แน่นอน
เปรียบเหมือนเป็นPositive thinking
ก็ได้(มั้ง) ทำให้เราไม่คิดมากเกินไป
และมีความสุขไปกับช่วงเวลาตกต่ำ
กล้าสู้กับมันเพื่อสมดุลที่จะตามมา
เหมือนเราได้มีเป้าหมาย แรงผลักดัน
ให้กับช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต
เพื่ออีกช่วงเวลาหนึ่งที่ดีของชีวิตจะตามมา

ถ้าไม่หลังขดหลังแข็งอ่านหนังสือ
แล้วจะมีความรู้ในสมองได้อย่างไร
ว่าแล้ว วันที่20สอบ
อ่านหนังสือดีกว่าเรา
เกร็งไว้ว่าผ่าน1ตก1แน่นอนฟันธง
-------------

สรุปจริงๆแล้วเราแค่อยากจะสื่อว่า
สมดุลไม่เคยเกิดขึ้นนานพอให้เราเสพได้สาสมใจ
แต่เราต้องรู้จักเสพความสุขจากความไม่สมดุลด้วยเช่นกัน
อย่าปล่อยให้ความทุกข์และแง่ลบต่างๆมาครอบงำชีวิตเรา
เมื่อเราเข้าใจทุกอย่างล้วนอนิจจัง เราก็จะมีความสุขได้ในทุกวัน
จริงๆเขียนแค่3-4ประโยคก็น่าจะพอ เอองงตัวเอง



ปล. เขียนเองอ่านเองงงเอง อนาคตถ้ากลับมาอ่าน รบกวนพัฒนาทักษะการเรียบเรียงใหม่ด้วย


























“ You trust the quality of what you know, not quantity. ” : Mr Miyagi


Goodluck,
Introvert man.

CWS-2019 : จบWeek28 : ไอเดียใหม่

https://www.myfxbook.com/members/Cassowaryleague/cws-2019-swingtrade-imht-pipatara/2793222
เข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามลิงค์
-------------------


พอร์ทCassowaryสัปดาห์ที่ผ่านมา
ยังคงติดดอยต่อไป
แต่เราเริ่มมีแผนใหม่
สำหรับการทดลองระบบ
ของพอร์ทนี้แล้ว
ถ้าหลุดดอยได้เมื่อไหร่


ปีนี้กะว่าจะมาเทสระบบใหม่ๆใช่ไหม
เลยจะลองระบบอื่นๆต่อ
เพราะรู้สึกว่าที่เทรดอยู่ไม่สวยเท่าไหร่
เราน่าจะทำได้ดีกว่าติดดอย
เลยจะลองมีSLดูบ้าง

แต่ก็ต้องลองตัวนี้หลุดดอยก่อน
----------

























“ A lie told often enough becomes the truth. ” : Vladimir Lenin


Goodluck,
Introvert man.

1stPDIMHT : Week19 : เหวี่ยงจัดปลัดบอก

https://www.myfxbook.com/members/superman_hero/1stpdimht/3337248
เข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามลิงค์
-------------------


พอร์ทPAMMสัปดาห์ที่ผ่านมา
ยังคงเก็บCFไม่ได้
และพอร์ทเหวี่ยงหนักมากในสัปดาห์
เหวี่ยงลึกไปถึง200+
ลงไปทำDDใหม่กันเลย

แต่ก็ปรับตัวขึ้นมาได้ก่อนปิดสัปดาห์
เหวี่ยงแต่ละวันก็ -+50-70ได้เลย
ใจจะวาย

กระสุนใช้ครบหมดแล้ว
ส่วนใหญ่ไปฝังตัวในGBP
ก็ต้องเรียกได้ว่าbetหนัก
กันเลยทีเดียว
แต่อีกใจก็ยังไม่อยากให้GBPบิน
เพราะพอร์ทอื่นๆยังคงต้องการเก็บของ
ในราคาที่ต่ำกว่านี้อีกมาก

แต่ก็นะ ยังไงก็ได้หมด
จะขึ้นหรือลงแต่ของวิ่งแรงๆหน่อย
วัยรุ่นเซ็ง
-----------

DDเพิ่มมาทำAll time highอีกแล้ว
วิ่งไปถึง13.62% ในMql5อยู่ที่14.4%
เป้าที่ตั้งไว้ไม่อยากให้เกิน30-40%


























“ People love to be told what they know already. ” :  P. J. O'Rourke


Goodluck,
Introvert man.

Tuesday, July 09, 2019

ทุกคนได้รับ : โอกาส : ที่ดีที่สุดในชีวิตมาแล้ว

(Photo : catdumb.com)



เมื่อวานก็มีข่าวสื่อต่างๆลงกันว่า
เทรนนิ่งเทรดเดอร์ หรือ อาจารย์เติ้ล
(เค้าคือใคร?ไม่รู้จักเหมือนกัน)
หายตัวไปกับเงิน100ล้านบาท
ผู้เสียหายกว่า100คน
รวมตัวกันแจ้งความเอาผิด
----------

เรามองแล้วความรู้สึกก็คงคล้ายๆทุกคน
เราสงสารผู้เสียหายทุกคน แต่มากไปกว่านั้น
คือเราเสียดาย ทั้งเวลา โอกาส
และสำคัญเลย ที่มาบันทึกไว้คือ
เราเสียดายที่เค้าใช้โอกาสไปเสียเปล่า

เราจำไม่ได้ว่าเคยบันทึกเรื่องนี้ลงไหม
ปกติเรื่องนี้เราพูดย้ำเสมอๆ เกือบตลอดเวลา
และพูดกับทุกๆคนที่เราห่วงใย
เราเตือนทุกคนรอบตัวเสมอๆว่า
แค่เราๆนะเกิดมาครบ32เนี่ย
เราก็มีโอกาสมากกว่าคนอีกมาแค่ไหนแล้ว
ทำไมทำโอกาสให้เสียเปล่า
ยิ่งถ้าใครเกิดมาพร้อมสติปัญญา หรือพรสวรรค์อีก
ยิ่งมีโอกาสมากกว่าใครเค้าเลย
อย่าปล่อยโอกาสให้เสียเปล่านะ

เราเตือนทุกๆคนและตัวเองเสมอ
เพราะเราเห็นหลายๆคนที่เกิดมาพิการตั้งแต่กำเนิด
เค้าไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้เลือก
ว่าเค้าต้องการแบบนี้หรือป่าว
ไม่มีโอกาสได้เลือกแม้กระทั่งวันนี้อยากกินอะไร

หรืออย่างตัวเรา เราไม่มีสิทธิ์เลือกเลย
ว่าเราอยากเป็นโรคภูมิแพ้หรือป่าว
ผู้ป่วยทุกคนที่มีโรคประจำตัวคงเข้าใจเป็นอย่างดี
แต่ผู้ป่วยบางโรคก็มีโอกาสในการรักษาตัวได้
จากการเลือกกิน เลือกใช้ชีวิตที่ดีขึ้น เช่นตัวเรา

เราจึงยิ่งอยากบอกบุคคลใดก็ตาม
ที่ ณ วันนี้คุณเกิดมาสมบูรณ์ไม่มีแม้โรคประจำตัวเล็กๆน้อยๆ
แล้วเลือกใช้โอกาสของคุณไปทำอะไรก็ตาม
ที่คุณมีเป้าหมายจะทำ นั้นเราไม่โต้แย้ง
เพราะเราเพียงแต่อยากแนะน้องๆเพื่อนๆเราเท่านั้น
และเพียงบันทึกความห่วงใย
ไปถึงท่านใดก็ตามที่ได้กำโอกาสไว้ในมือท่านแล้ว
เราอยากให้ท่านใช้สะ ใช้ทำสิ่งใดก็ได้
เราเชื่อว่าสิ่งนั้น
จะเป็นเรื่องที่ดี ไม่กับท่านเอง ก็กับคนอื่นๆ
เพราะเราเชื่อในโอกาส

เราเลยอยากให้ทุกคนตระหนักเรื่องโอกาส
ยิ่งเจอข่าวอาจารย์เติ้ลอะไรนี่แล้วยิ่งตอกย้ำ
ว่าคนที่ปล่อยโอกาสที่เกิดมาสมบูรณ์ให้เสียป่าว
แล้วยังคดโกงเพื่อนมนุษย์ด้วยกันไปอีกนั้น
คุณมีโอกาสได้เลือก และคุณเลือกทางของคุณไปเสียแล้ว
------

สรุปแล้วจริงๆไม่มีอะไร
เพียงมาบันทึกตอกย้ำสิ่งที่คิดและบ่มสอนคนรอบข้าง
ว่าเราทำถูกแล้ว แต่เราไม่ได้มีความดีใจเลย
กลับนั่งเสียใจด้วยซ้ำที่เพื่อนมนุษย์
ผู้ได้รับโอกาสและความไว้วางใจมากมาย
กลับทำลายมันลงอย่างง่ายดาย


ปล. ไม่ก้าวล่วงไปถึงคนที่ใช้โอกาสตามความพึงพอใจส่วนบุคคล ทุกคนมีสิทธิ์เลือกทางเดินของตัวเอง เรามิได้ทำตัวเป็นผู้พิพากษาแต่อย่างใด


























“ You have to accept people for who they are. You can guide. You can give people chances. But you cannot hold on to people in fear that you are bad because you can't keep everyone you've hired. ” : Whitney Wolfe Herd


Goodluck,
Introvert man.

Monday, July 08, 2019

Principles : Ray Dalio : Chapter 2

ความเข้าใจส่วนตัว
และความเห็นส่วนตัว
ที่มีต่อการได้อ่าน
Principles ของ Ray Dalio
*ลุง = เรย์
--------






ลุงจบม.ปลายแล้วไปต่อวิทยาลัยC.W. post
และลุงก็ชอบการเรียนที่นี่ด้วย
วิชาเอกคือการเงิน
ทำให้ลุงจบจากที่นี้ด้วยผลการเรียนที่สวยงาม

ลุงได้เรียนรู้การนั่งสมาธิมาจาก
มหาริชชี มะเหศ โยคี
ลุงรักและชอบในการนั่งสมาธิ
ลุงบอกว่ามันช่วยให้สงบและเปิดใจลุงให้กว้างขึ้น

ลุงเรียนเอกการเงินและสนใจด้านFutures
ในเวลานั้นยังไม่มีFuturesของหุ้น พันธบัตร และค่าเงิน
สัญญาซื้อขายจึงเป็นสัญญาสินค้าล่วงหน้าที่ส่งมอบจริง
เป็นสินค้าโภคภัณฑ์ ข้าวโพด ถั่วเหลือง ปศุสัตว์ และหมู

ลุงชื่นชอบแคมเปญโฆษณาของAppleในยุคนั้น
ลุงไปเกณฑ์ทหารและพบว่ามีน้ำตาลในเลือดต่ำ
เลยไม่ต้องไปเป็นทหาร

ในปี1971ลุงจบและเข้าเรียนโรงเรียนธุรกิจแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
Harvard Business School หรือ HBS
และลุงก็ทำงานเป็นเสมียรที่ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กด้วย
-----------

และในปีเดียวกันนั้นเอง
ประธานาธิปดีNixon
ได้ประกาศปล่อยค่าเงินดอลล่าร์ฯลอยตัวจากทองคำ
ลุงคิดว่าตลาดหุ้นจะตก
แต่ที่ไหนได้มันดีดตัวขึ้น4%
และเพิ่มขึ้นทุกวันจนลุงต้องเอาไปไตร่ตรองต่อ
จนลุงพอว่ามันเคยเกิดขึ้นมาก่อนแล้ว

เหตุการณ์นี้มันสอนลุงว่า
"คุณควรจะเข้าใจในสิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับคนอื่นๆ ในเวลาอื่น
และที่อื่นมาก่อน ถ้าคุณไม่ทำตามนั้นคุณจะไม่มีทางเข้าใจ
หากสิ่งนั้นเกิดขึ้นกับคุณ และถ้ามันเกิดขึ้นคุณจะไม่รู้วิธีการจัดการกับมัน"
---------

เศรษฐกิจและตลาดหุ้นกลับมาคึกคักในปี1972
หุ้นกลุ่มNifty50กำลังเป็นที่นิยม (คล้ายSET50บ้านเรา)
และเกิดวิกฤติน้ำมัน ทำให้สินค้าโภคภัณฑ์ราคาสูงขึ้น
ตลาดหุ้นดิ่งเหวในปี1973

ปัญหาเกิดจากนโยบายeasy-credit
หรือการปล่อยกู้ดอกต่ำเพื่อเพิ่มปริมาณเงินในระบบ
โดยแท้จริงแล้วการพิมพ์เงินออกมาใช้แบบนี้
ทำให้ค่าเงินลดลงอย่างรุนแรง
และราคาโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้น
ธนาคารกลางจึงใช้นโยบายรัดเข็มขัด
ทำให้ตลาดหุ้นตกต่ำถึงขีดสุด
และเศรษฐกิจย่ำแย่ที่สุดนับจากปี1929
-------------

ลุงได้ทำงานกับDominick&Dominick
แต่ก็ปิดตัวลงไป
ช่วงเวลานั้นมีข่าวดังคดีวอเตอร์เกต
ทำให้ประธานาธิปดีNixonต้องลาออก
ตลาดหุ้นยังตกอย่างต่อเนื่อง
ลุงได้เจอBarbaraหรือภรรยาของลุงด้วย

ลุงเล่าเรื่องการตัดสินใจที่ผิดพลาดให้ฟัง
ในการเทรดหมูสามชั้นที่เกิดLimit downหลายวัน
ลุงบอกว่ามันสอนลุงว่าลุงจะไม่เดิมพันกับสิ่งๆเดียว
ในการเทรด คุณต้องตั้งรับและเกรี้ยวกราดไปในเวลาเดียวกัน
หากคุณไม่เกรี้ยวกราดคุณจะหาเงินไม่ได้เลย
หากคุณไม่ตั้งรับคุณก็จะรักษาเงินไว้ไม่ได้
การเทรดก็เหมือนทำงานกับไฟฟ้า
บางครั้งก็ต้องเจอไฟช็อตบ้าง
-----

ลุงก็ได้ตำแหน่งงานใหม่ในShearson
เป็นการป้องกันความเสี่ยงของธุรกิจจาการลงทุนซื้อขายล่วงหน้า
ลุงก็พัฒนาตัวเองไปจนเป็นผู้เชี่ยวชาญ
ลุงเดินทางบ่อย คลุกคลีกับผู้ค้า
ผู้เลี้ยง และลุงพูดเหมือนลุงถูกไล่ออก
มีการชกต่อยกับเจ้านายด้วย
ในปี1975ลุงก็ก่อตั้งBridgewater

ยังคงมีลูกค้าหรือผู้ค้าคนเดิมๆ
ที่ยังชอบลุงและต้องการคำปรึกษาจากลุงอยู่ด้วย
ลุงบอกว่าชื่อมาจากตอนนั้นเรากำลังสร้างสะพานข้ามน้ำ
ลุงใช้อพาร์ตเมนต์สองห้องนอนเป็นสำนักงานแรก
ลุงมีความสุข 1977ลุงแต่งงาน
ย้ายบ้านและบริษัทไปแมนฮัตตัน
มีลูกค้าจากรัสเซียเข้ามา
ตอนนั้นเหมือนยังเป็นUSSR
หรือโซเวียตอยู่
ลุงก็พาเมียไปเทียวด้วยไปในตัว
---------------

เข้าสู่โหมดการลงทุนของลุง
ลุงขยันและสุดยอดมากๆ
ลุงนำเอาตัวเลขทุกอย่างที่สัมพันธ์กันมาบันทึก
และเก็บข้อมูล และประมวลข้อมูลออกมา
เช่น แปลงค่าระดับน้ำฝน เพื่อประมาณผลผลิต
พอเรารู้เราก็จะได้ประมาณค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาผลผลิต
และตลอดไปจนถึงการเลี้ยงปศุศัตว์
ตั้งแต่มีชีวิตไปตลอดจนกลายเป็นซากสัตว์ที่ชำแหละแล้ว

จนลุงได้ออกมาเป็นเครื่องจักรที่ยอดเยี่ยม
ที่จำลองกฏการตัดสินใจ(หลักการ)ให้เกิดขึ้นในใจลุงได้
แต่ก็ไม่ใช่ไม่มีการขาดทุน
ลุงขาดทุนกว่า$100,000
เพราะตอนนั้นลุงมั่นใจมากว่าจะไม่มีทางขาดทุน
เรื่องราวนั้นก็สร้างความเจ็บปวดให้กับลุงและลูกค้าของลุง
และได้สอนลุงเช่นเคย
ลุงได้ทำเรื่องพิดพลาดมากมาย
กว่าลุงจะเปลี่ยนพฤติกรรมของลุงได้
------

ลุงก็มีลูกค้าเป็นผู้เลี้ยงไก่รายใหญ่ที่สุด
และผู้ซื้อเนื้อวัวรายใหญ่คือMcDonald's
แล้วช่วงนั้นเค้ากำลังจะออกนักเก็ตไก่
แต่กังวลเรื่องราคาไก่
ลุงก็แก้ปัญหาโดยการใช้สัญญาซื้อขาย
ข้าวโพดและถั่วเหลืองล่วงหน้า
เพื่อกำหนดราคาต้นทุนราคาอาหารที่นำมาเลี้ยงไก่
จนทำให้McDonald'sมีนักเก็ตไก่อร่อยๆในทุกวันนี้
ชาบูลุงไป1ที

1978ลุงมีลูกชายให้ชื่อว่าDevon
เป็นชื่อวัวสายพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุดที่มนุษย์รู้จัก

เราสรุปว่าตลอดเวลาที่ลุงทำงานซื้อขายล่วงหน้านี้
ลุงให้เครื่องจักร หรือระบบข้อมูลที่ลุงสร้างและพัฒนาอยู่
เป็นตัวตัดสินใจร่วมกับลุงมาตลอด
และให้ผลที่ออกมาดีด้วย ดีมากกว่าแย่ไงง่ายๆ
และลุงก็พัฒนาเจ้าตัวนี้มาเรื่อยๆ
ลุงบอกว่าปัจจุบันมันแตกต่างกับตัวแรกเริ่มที่ลุงเล่าแล้ว
ตัวที่ลุงเล่าอยู่นี้ลุงบอกเป็นตัวง่ายๆเลย

เป็นว่าลุงเริ่มมีหลักการจากตรงนี้
และใช้ปฎิบัติเรื่อยมา
ถ้าเข้าใจไม่ผิด
------------



โอเค อ่านเองเข้าใจเอง
ตีความตามความเข้าใจเราเอง
อาจจะมั่วบ้าง ก็ไม่ขอโทษใครแล้ว
บทความต่างๆนี้บันทึกไว้อ่านเองภายหลัง
และเอาไว้เทียบกับการกลับมาอ่านรอบที่2-3-4-5
บางอย่างอาจเปลี่ยนไปตามวัยวุฒิ คุณวุฒิ เวลา
ลุงบอกให้เปิดสมองอ่าน
ต้องไปหาเลื่อยมาแหกกระบาลเสียแล้ว ฮ่าๆ


ปล. ยาวเหยียดเลย แต่ก็สนุกดี ชีวิตลุงเห็นได้อย่างคือลุงขยัน และมีอะไรบางอย่างที่แตกต่างกับเรามากๆ ซึ่งเราน่าจะเดินทางสายลุงไม่ได้100% แต่คิดว่าเอาอย่างละนิดละหน่อยไปปรับใช้ได้



















“ When you look in the mirror, what do you see? Do you see the real you, or what you have been conditioned to believe is you? The two are so, so different. One is an infinite consciousness capable of being and creating whatever it chooses, the other is an illusion imprisoned by its own perceived and programmed limitations. ” : David Icke


Goodluck,
Introvert man.

Sunday, July 07, 2019

Principles : Ray Dalio : Chapter 1

ความเข้าใจส่วนตัว
และความเห็นส่วนตัว
ที่มีต่อการได้อ่าน
Principles ของ Ray Dalio
*ลุง = เรย์
--------



ลุงเกิดในปี1949
พ่อเป็นนักดนตรีแจ๊ส
คุณพ่ออายุ81เป็นโรคหัวใจ อยู่ต่อได้อีกราว10ปีให้หลัง
แม่เป็นแม่บ้าน คุณแม่เสียตอนลุงอายุได้19

ลุงไม่ชอบไปโรงเรียน
ลุงจำข้อมูลลอยๆไม่ค่อยได้
ลุงชอบทำสิ่งที่ลุงชอบ
อ่านแล้วเหมือนลุงไม่ค่อยชอบให้ใครใช้งาน
ลุงมีความเป็นตัวเองสูง
ลุงใช้ชีวิตแบบเด็กวัยรุ่นทั่วไป
และได้เงินจากการลงทุนในตลาดหุ้น
ช่วงที่ตลาดหุ้นHotด้วย
ทำให้ชีวิตวัยรุ่นของลุงนั้นค่อนข้างเที่ยวเก่ง

ลุงลงทุนตั้งแต่อายุ12
ในหุ้นของNortheast Airlines
ตอนต่ำกว่า$5
แล้วมันก็พุ่งขึ้นไปเยอะมาก
ซึ่งลุงไม่รู้ว่ามันกำลังจะล้มละลาย
แล้วดันมีบริษัทเข้ามาซื้อกิจการทั้งหมดไป
ราคาหุ้นเลยพุ่ง
ลุงรวยขึ้น3เท่าเลยนะ

แต่ต่อให้ลุงชอบไปเที่ยว
แต่ลุงก็ขยันทำงานเล็กๆน้อยๆเก็บเงิน
และยังขยันหาข้อมูลตลอด
เป็นนิสัยที่ดีเลย
ไม่ใช่กำไรแล้วก็ไม่เอาอะไรแล้ว
จะปล่อยให้เงินทำงาน
---------

ช่วงนั้นตลาดหุ้นสหรัฐร้อนแรงมาก
ทำให้DCAเป็นที่นิยม คือถัวเฉลี่ยซื้อทุกๆเดือน

ลุงบอกว่าลุงกลัวความน่าเบื่อหน่าย ความธรรมดา
ลุงใช้คำว่ากลัวนะ น่าสนใจแหะ
ลุงบอกว่าลุงเป็นนักคิดที่มีแนวโน้มจะเสี่ยงเพื่อให้ได้ผลตอบแทนเสมอๆ
ลุงกลัวความธรรมดามากกว่ากลัวความล้มเหลว

ในปี1966 เป็นปีสุดท้ายของมัธยมปลาย
ตลาดยังทำเงินได้มาก
แต่ลุงไม่รู้เลยว่าปีนั้นเป็นปีที่ดีที่สุดของตลาดหุ้น
หลังจากนั้นที่ลุงรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับตลาดหุ้น
ได้รับการพิสูจน์ว่ามันผิด
-----------

โอเค อ่านเองเข้าใจเอง
ตีความตามความเข้าใจเราเอง
อาจจะมั่วบ้าง ก็ไม่ขอโทษใครแล้ว
บทความต่างๆนี้บันทึกไว้อ่านเองภายหลัง
และเอาไว้เทียบกับการกลับมาอ่านรอบที่2-3-4-5
บางอย่างอาจเปลี่ยนไปตามวัยวุฒิ คุณวุฒิ เวลา
ลุงบอกให้เปิดสมองอ่าน
ต้องไปหาเลื่อยมาแหกกระบาลเสียแล้ว ฮ่าๆ


ปล. ปูเรื่องมาแล้ว DNAและตัวตนของลุงน่าจะต่างกับตัวตนของเราถ้าเทียบ1-10ก็น่าจะต่างกันระดับ7ได้เลย มีเพียง3ส่วนที่คล้ายๆเราสมัยวัยรุ่น



















“ Happiness is actually found in simple things, such as taking my nephew around the island by bicycle or seeing the stars at night. We go to coffee shops or see airplanes land at the airport. ” : Andrea Hirata


Goodluck,
Introvert man.

ลัทธิ หรือ ศาสนา : เต๋า

(Photo : wikiwand.com/)


ลัทธิเต๋า(เต๋าเจีย)
หมายถึง "มรรคา" สื่อไปในแง่ของวิถีทางและหลักการ
หมายถึงสิ่งที่เป็นธรรมชาติ เกิดมีขึ้นเอง เป็นนิรันดร์ ไร้ชื่อเรียกขาน
และไม่สามารถอธิบายได้ สิ่งนี้เป็นทั้งจุดเริ่มต้นของสรรพสิ่ง
และเป็นวิถีที่ทุกสรรพสิ่งดำเนินไปตาม

แต่ในสมัยนี้กลายพันธุ์ไปเป็นศาสนาแล้ว
ส่วนตัวชอบในสมัยที่ยังคงเป็นปรัชญา
มีความต้องการผสานมนุษย์ไปตามธรรมชาติ
โดยไม่ขัดขืนและเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับธรรมชาติ

ลัทธิเต๋าให้ความสำคัญกับกฏธรรมชาติ
และไม่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาเกี่ยวข้อง
ศาสนาเต๋ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์และพิธีกรรม
งานวิจัยที่เราเคยอ่านเค้าบอกว่า
ศาสนาเต๋านำเอาแนวคิดเกี่ยวกับ
ชีวิตและธรรมชาติของลัทธิเต๋ามาประยุกต์ใช้
-------

เล่าจื้อเองผู้ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นศาสดา
ในขณะที่มีชีวิตอยู่ก็ไม่เคยประกาศตัวเป็นศาสดา
และไม่เคยประกาศตั้งศาสนาเต๋า

เราชอบบทคำสอนของเล่าจื้อในหลายๆส่วน
แม้ผ่านกาลเวลามานานมากก็ยังนำมาปรับใช้ได้
โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้
ช่วงเวลาที่มนุษย์เริ่มห่างเหินธรรมชาติไปในทุกวัน

เล่าจื๊อสอนไว้ว่า
”คนดีที่สุดมีลักษณะเหมือนน้ำ น้ำทำประโยชน์ให้แก่ทุกสิ่ง และไม่พยายามแก่งแย่งแข่งดีกับสิ่งใดๆ เลย น้ำขังอยู่ในที่ต่ำที่สุด ซึ่งเป็นที่ใกล้เต๋า…”

เล่าจื๊อได้กล่าวไว้ว่า
ชาวโลกทั้งปวงกล่าวว่าข้าพเจ้าเป็นนักปราชญ์
ข้าพเจ้าหาได้เป็นดังคำกล่าวของคนทั้งหลาย
แต่ข้าพเจ้ามีสมบัติอันเป็นแก้ว 3 ประการ อยู่ในตัวข้าพเจ้า
ที่คนทั้งหลายควรดูแลและรักษากันไว้ให้ดีคือ
1. ความเมตตากรุณา
2. ความกระเหม็ดกระแหม่(มัธยัสถ์)
3. ความอ่อนน้อมถ่อมตน
เพราะมีความเมตตากรุณา บุคคลก็ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น
เพราะมีความกระเหม็ดกระแหม่ บุคคลก็ร่ำรวยได้
เพราะมีความอ่อนน้อมถ่อมตน บุคคลก็สามารถมีสติปัญญาเจริญเต็มที่ได้
ถ้าละทิ้งเมตตากรุณา รักษาไว้แต่ความกล้าหาญ
ถ้าละทิ้งความสำรวม รักษาไว้แต่อำนาจ
ถ้าละทิ้งการตามหลัง แต่ชอบรุดออกหน้า เขาก็ตาย
-------------

ถ้ามองอีกมุมก็อาจจะบอกได้ว่าเล่าจื้อนั้นโง่เกินไป
ไม่เข้าใจธรราชาติและจิตใจของมนุษย์เอาเสียเลย
หรือจะมองว่าเล่าจื้อนั้นเข้าใจจนลึกซึ้ง
จึงอยากให้มนุษย์พ้นทุกข์กิเลศทั้งหลาย
ที่เกิดจากการไม่ปล่อยวางในชีวิต

มุมมองต่างๆก็มีการผสานหลายๆศาสนาเข้ามาด้วย
ทั้งพุทธ เทวนิยม อเทวนิยม ไสยศาสตร์ และอื่นๆมากมาย
จริงๆพื้นฐานที่เกิดจากปรัชญานั้นดีแล้ว
อาจจะได้รับอิทธิพลมาจากอินเดียสมัยนั้น
หรือไม่ว่าอย่างไรวันนี้มันถูกเปลี่ยนแปลงไปมาก

ส่วนตัวก็เลยยังชอบศึกษาปรัชญา
ไม่ว่าจะชาติพันธุ์ไหนก็ตาม
มนุษย์เรานั้นแทบไม่ต่างจากเมื่อก่อนเลย
ยังคงวนเวียนอยู่กับโลภะมากมาย
แค่โลภะนั้นเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ไปตามเวลา
แต่ยังคงมอมเมามนุษย์ได้ร่ำไป

ทั้งศาสนาพุทธและเต๋าที่เราชอบเป็นพิเศษนั้น
เรามองว่าจริงๆแก่นกลางของทั้งสองนั้นดีมาก
ดีมากแล้ว แต่มนุษย์นั้นยังคงไม่พอ
จึงเติมแต่งพลังวิเศษและอิทธิฤทธิ์เข้าไปมากมาย
จนกลายพันธุ์กันไป
และทั้งยังผสมข้ามสายพันธุ์กับความเชื่ออื่นๆด้วย
จนกลายร่างมาเป็นอย่างทุกวันนี้
เราได้แต่รำพึงว่า"น่าเสียดายนัก"


















“ Believe in yourself! Have faith in your abilities! Without a humble but reasonable confidence in your own powers you cannot be successful or happy. ” : Norman Vincent Peale


Goodluck,
Introvert man.