Thursday, January 31, 2019

Read&Write : แนวคิดเกี่ยวกับการบริหาร : Chapter 3

(Photo : aliminasab.mihanblog.com)


แนวคิดเกี่ยวกับการบริหาร
แบ่งออกเป็น 4ตอน
รอบนี้เป็นตอนที่3 ไปลุยกัน
--------


ระดับการบริหาร
1.) การแบ่งระดับการบริหารโดยทั่วไป
1.1) ผู้บริหารระดับสูง : มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงต่อการบรรลุเป้าหมายขององค์การในภาพรวม
มีหน้าที่กำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ ทิศทางองค์การ

1.2) ผู้บริหารระดับกลาง : มีหน้าที่เปลี่ยนแปลงนโยบายของผู้บริหารระดับสูงไปสู่การปฏิบัติ
และควบคุมดูแลให้เป็นไปตามเป้าหมายของนโยบาย

1.3) ผู้บริหารระดับต่ำ : มีหน้าที่นำแผนกลยุทธ์ไปปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม  ติดตามการปฏิบัติงาน
ของพนักงานระดับปฏิบัติการโดยตรง ทำให้ผู้บริหารระดับล่างรู้เงื่อนไข ปัญหา ข้อจำกัดได้ดีกว่าระดับอื่นๆ


2.) แนวคิดการแบ่งระดับการบริหารของ Henry Mintzberg
1.1) ผู้บริหารระดับสูง
- มีหน้าที่บริหาร ควบคุม ติดตามการทำงานขององค์การโดยตรง
- มีหน้าที่จัดการสภาหรือเงื่อนไขต่างๆขององค์การที่สัมพันธ์กับสภาพแวดล้อม
- มีหน้าที่กำหนดทิศทาง ยุทธศาสตร์ และแผนขององค์การ
และผู้บริหารระดับสูงยังต้องแสดงออกอย่างชัดเจนและครบถ้วนในบทบาทหลักทางการบริหารดังนี้
- บทบาทด้านหารตัดสินใจ : จัดการความขัดแย้ง ทรัพยากร และการเจรจาต่อรอง
- บทบาทด้านข้อมูลข่าวสาร : กระจายข้อมูลข่าวสาร ติดตามการดำเนินงาน และเป็นโฆษก
- บทบาทด้านความสัมพันธ์และการทำงานร่วมกับผู้อื่น :  เป็นประธาน ผู้นำ และตัวแทนองค์การ

1.2) ผู้บริหารระดับกลาง
- มีหน้าที่รวบรวมข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานแล้วรายงาน
- มีหน้าที่บริหารจัดการหน่วยงานย่อยที่ตนเองรับผิดชอบ
- มีหน้าที่เป็นตัวเชื่อระหว่างผู้บริหารระดับสูงกับผู้ปฏิบัติงานหลักในองค์การ
- มีหน้าที่ตรวจสอบสภาพแวดล้อมในหน่วยงานย่อย และปรับสภาพการณ์และเงื่อนไขให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อม

1.3) ผู้ปฏิบัติงานหลัก
- คือผู้บริหารระดับล่าง ใกล้ชิดกับพนักงานระดับปฏิบัติมากที่สุด
- มีหน้าที่ควบคุมผู้ปฏิบัติงาน วางแผนขั้นตอนวิธีปฏิบัติงาน
- ต้องมีทักษะด้านเทคนิคสูงที่สุด แต่มีทักษะด้านการคิดภาพรวมน้อยที่สุด
---------------------

ทักษะทางการบริหาร
1.) ทักษะทางด้านการคิดวิเคราะห์และการมองภาพรวม (Conceptual Skills) (เก่งคิด)
ผู้บริหารระดับสูงจะต้องผชิญสภาภแวดล้อมภายนอกที่เปลี่ยนแปลงมากกว่าระดับอื่นๆ
จึงต้องมีทักษะในการวิเคราะห์สถานการณ์และกำหนดวิสัยทัศน์ จึงจำเป็นต้องมองจากมุมสูง

2.) ทักษะด้านมนุษย์สัมพันธ์ (Human Relation Skills) (เก่งคน)
การดำเนินงานในองค์การมีการจัดโครงสร้างและแบ่งงานกันทำ องค์การที่มีความซับซ้อนหลายระดับ
จึงจำเป็นต้องมีการสื่อสารกัน รู้ว่าควรสื่อสาร สร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงาน ผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างไร

3.) ทักษะด้านเทคนิค (Technical Skills) (เก่งงาน)
เป็นอีกทักษะที่มีความสำคัญไม่น้อย เป็นทักษะที่เกี่ยวข้องกับความรู้เฉพาะในงาน
รู้กฏ ระเบียบ มาตราฐานการทำงาน รู้ว่าเวลาใดควรใช้เครื่องมืออะไร
หรือทรัพยากรอะไรบ้างเพื่อให้งานบรรลุเป้าหมาย


(รูปภาพนี้ช่วยให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น)









ปล. ทั้งหมดเขียนตามความเข้าใจล้วนๆ อันไหนเข้าใจผิดขอภัยด้วย วันไหนเข้าใจถูกจะเข้ามาแก้ไขให้ถูกต้องที่สุดต่อไป




















“ The ear of the leader must ring with the voices of the people. ” : Woodrow Wilson


Goodluck,
Introvert man.

Wednesday, January 30, 2019

Read&Write : แนวคิดเกี่ยวกับการบริหาร : Chapter 2-2

(Photo : pubpab.com)


แนวคิดเกี่ยวกับการบริหาร
แบ่งออกเป็น 4ตอน
รอบนี้เป็นตอนที่2
แยกย่อยออกเป็น 2-1 และ 2-2
เนื้อหาเยอะเดียวอ่านกันตาลาย
ไปลุยตอนที่ 2-2 กันเลย
ตอนนี้จะยาวหน่อย แต่สรุปมาแล้วจริงๆนะ
หรือถ้าขี้เกียจอ่านทั้งหมดข้ามไปอ่านสรุปของแต่ละตอนได้เลย
--------


วิวัฒนาการของการบริหารมี2แบบ
--------

1.) "แนวคิดการบริหารในอดีต" มนุษย์เรียนรู้การบริหารมานานมากแล้ว บางยุคมีความก้าวหน้าในการบริหารที่ต้องควบคุมคนเป็นจำนวนมากๆ

อาณาจักรมายา : เชื่อเรื่องเทพมากๆ มีการสร้างพีระมิดบูชาเป็นยอดแบบแบนราบมีทั้งความสูงและขนาดความใหญ่โต ความซับซ้อนและความสวยงามจากการแกะสลักแทบทุกด้าน

ชาวแอชเท็ก : เป็นกลุ่มที่อพยพมาจากอเมริกาตอนเหนือ ชาวแอชเท็กทำสงครามกับรอบข้างเพื่อปกป้องอาณาเขตที่อุดมสมบูรณ์ ชาวแอชเท็กมีชื่อเสียงด้านเกษตรกรรม สามารถสร้างสวนลอยน้ำเพื่อทำการปลูกพืช

อียิปต์ยุคราชวงศ์ : เป็นดินแดนอุดมสมบูรณ์ มีการสร้างพีระมิดหลวงขึ้น พีระมิดเดิมเป็นเนินฝังธรรมดาสร้างตามความเชื่อลึกลงไปใต้ดินเพื่อเก็บมัมมี่ ณ วันนี้ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าชาวอียิปต์โบราณสร้างพีระมิดอย่างไร

โมอายหินขนาดใหญ่ : มีขนาด20-80ตัน และการเคลื่นย้ายไปตำแหน่งที่ต้องการ ความหมายและวัตถุประสงค์ของการสร้างโมอายยังไม่เป็นที่แน่ชัด การขนย้ายโมอายก็เช่นกัน

สโตนเฮนจ์ : เป็นกลุ่มแท่งหินขนาดใหญ่112ก้อน ตั้งเป็นวงกลมซ้อนกัน3วง มีชื่อเสียงในฐานะกลุ่มหินประหลาดซึ่งไม่มีใครทราบวัตถุประสงค์การสร้างอย่างชัดเจน(1ใน7สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง) อายุคาดว่าราวๆ5,000ปีก่อน จึงเกิดความสงสัยเรื่องการสร้างเพราะหินมีหน้ำหนักมากถึง30ตัน และต้องลากก้อนหินมาจากที่อื่น

กำแพงเมืองจีน : สร้างขึ้นในราชวงศ์จิ๋น เพื่อป้องกันพวกซยงหนูและพวกเติร์ก แต่มีเผ่ามองโกเลียและแมนจูเรียสามารถบุกฝ่ากำแพงได้ ยาว21,196.18กิโลเมตร นับเป็น1ใน7สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง

โดยสรุปคือ ไม่ว่าอาณาจักรไหนล้วนต้องอาศัยวิธีการบริหาร
ที่อย่างน้อยต้องเกี่ยวข้องกับการประสานงาน การควบคุม และการมีศูนย์กลางการสั่งการ
โดยเชื่อว่ายุคโบราณตอนปลาย เป็นระบบมากกว่าโดยผ่านกระบวนการทางการเมือง
ส่วนยุคโบราณตอนต้นมีรากฐานมาจากความเชื่อ ศรัทธา หรือการบูชาเทพพเจ้า

-------------------


2.) "แนวคิดการบริหารสมัยใหม่ และการบริหารร่วมสมัย" แนวคิดการบริหารได้เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แต่สิ่งที่ช่วยเร่งคือ ปัจจัยด้านเทคโนโลยีการผลิต และปัจจัยด้านสังคม ที่เปลี่ยนโครงสร้างจากสังคมเกษตรไปสู่สังคมอุตสาหกรรม ไปจนถึงแนวคิดทางการเมือง"ทุนนิยม"และ"สังคมนิยม"

2.1) แนวคิดเดิมที่เชื่อว่าการบริหารมีรูปแบบตายตัวทำนายได้ ไม่ได้รับการยอมรับในปัจจุบัน
ทำให้ผู้บริหารที่คิดแบบเดิม จะเป็นผู้ที่มองโลกแบบหยุดนิ่ง ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย
ทฤษฎีไร้ระเบียบและอื่นๆ จึงได้รับการยอมรับมากขึ้นเรื่อยๆ
ผู้บริหารควรมีสติให้มั่นในความอลวน ใช้สติปัญญาและความสามารถในการบริหารประคับประคอง
และรักษาเสถียรภาพขององค์การให้เคลื่อนตัวไปตามกระแสพลวัต เพื่อไปสู่เป้าหมายที่วางไว้

2.2) แนวคิดการบริหารคือการแข่งขัน เริ่มถูกท้าทายมากขึ้น
จุดบอดของบริษัทใหญ่ คือการมุ่งสร้างนวัตกรรมเพื่อความเป็นเลิศแบบเดิมๆ
จะเป็นการเปิดช่องว่างให้บริษัทขนาดเล็กใช้ความแปลกใหม่เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ
เค้ายกตัวอย่างIBMในยุครุ่งเรืองกับบริษัทเล็กอย่างDEC
ลองไปหาอ่านกันดูเพิ่มเติมได้
เรื่องคือIBMขายของดี แต่แพงมากๆ
DECเลยขายของห่วยกว่าหน่อย แต่ราคาถูกกว่า10้เท่า
จนDECเข้ามาIBMจึงสูญเสียลูกค้าไปมาก
DECขึ้นมาเป็นอันดับ2รองจากIBMได้
แบบนี้เรียกว่า Low-end Disruption Innovation

แบบที่สองเรียกว่า New Market Disruption Innovation
เป็นการเสนอสินค้า หรือเทคโนโลยีใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการใหม่ๆที่ไม่คู่แข่งใดตอบสนอง
คล้ายๆกลยุทธ์ Blue Ocean

2.3) แนวคิดการบริหารคือการมุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เป็นสากล เป็นแนวคิดที่ล้าสมัยแล้ว
เห็นได้ชัดในยุคเศรษฐกิจฟองสบู่ ซึ่งการรู้ภาษาสากลไม่เพียงพอต่อการอยู่รอดขององค์การ
การบริหารต้องการลูกค้าที่หลากหลาย เช่น จีน สแกนดิเนเวีย ตะวันออกกลาง
จะช่วยสร้างความเจริญเติบโตที่ยั่งยืนกว่าพึ่งพาภาษาสากลเพียงอย่างเดียว

2.4) แนวคิดการบริหารเทคโนโลยีที่ดีที่สุดมีส่วนสำคัญในความสำเร็จของการบริหาร อาจจะเคยเป็นความจริง แต่ปัจจุบันพบว่าเทคโนโลยีที่เหมาะสมมีส่วนสำคัญกว่าในความสำเร็จของการบริหาร
คุณสมบัติของเทคโนโลยีที่เหมาะสมคือ ราคาถูก ค่าดูแลรักษาต่ำ เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีที่ดี่ที่สุด ที่มีต้นทุนสูงกว่า จนทำให้สูญเสียความสามารถในการบริหาร

2.5) แนวคิดการบริหารสินค้าและบริการเป็นสากล เป็นที่ยอมรับและมีมาตราฐานอย่างการตั้งสถาบันISO
ในยุคหลังสมัยใหม่พบว่าเป็นเพียงเรื่องในอุดมคติ โดยธรรมชาติแล้วพบว่า
สินค้าและบริการมีความหลากหลาย มีข้อจำกัดหลายด้าน โดยเฉพาะด้านค่านิยม

2.6) การผลิตแบบจำนวนมาก เพื่อให้เกิดการประหยัด ในปัจจุบันพบว่าไม่เป็นจริงเสมอไป
การผลิตจำนวนน้อยแต่ยืดหยุ่น เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย จึงเป็นเรื่องที่ต้องพัฒนา

2.7) การวางแผนกลยุทธ์ในการบริหารในยุคสมัยใหม่ แต่อย่างที่ทราบกันดีว่าในยุคสมัยใหม่
และยุคหลังสมัยใหม่ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การวางแผนกลยุทธ์ต้องปรับเปลี่ยนตลอดเวลา
การวางแผนกลยุทธ์จึงเป็นเรื่องในอุดมคติ เพราะไม่มีกลยุทธืใดที่สามารถใช้งานได้ตลอดเวลา
บริษัทจึงต้องมีนักกลยุทธ์ที่มีความสามารถสูงพอที่จะรู้ว่าควรจะต้องม่ีการเปลี่ยนแปลง
เพื่อให้องค์การสามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ ตามสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

2.8) ตัวชี้วัดเชิงปริมาณมีความสำคัญในการบริหาร ตัวชี้วัดเชิงคุณภาพไม่มีความสำคัญในการบริหาร
เพราะไม่สามารถวัดได้ชัดเจน แต่อย่างไรก็ตามหลังยุคสมัยใหม่ ตัวชี้วัดเชิงปริมาณไม่ม่ีความสำคัญใดๆ
ถ้าไม่ส่งผลต่อความสำเร็จในการบริหารโดยรวม

2.9) ตัวชี้วัดเชิงคุณภาพ เช่น รสนิยม ความพึงพอใจของลูกค้า ความเชื่อมั่น จึงมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่า
ตัวชี้วันเชิงปริมาณอย่างยอดขายต่อเดือน แม้ส่วนใหญ่มีความแม่นยำน้อยกว่า

2.10) แนวคิดการบริหารคือการจัดการคนให้เหมาะสมกับงาน ถ้าจะแบ่งงาน ควรมุ่งการทำงานเป็นทีม
มากกว่ามุ่งสร้างคนเก่งในแต่ละส่วน ผู้บริหารทุกองค์การควรตระหนักว่า การลดงานลงโดยจ้างองค์การภายนอก
ถ้าเป็นงานที่ไม่สำคัญก็สามารถทำได้ แต่มีเงื่อนไขว่าถ้าองค์การต้องนำกลับมาทำเอง ต้องไม่สูญเสียความสามารถนั้นๆ
"งานดีๆบางอย่างสร้างได้ภายในวันเดียว แต่คนที่มีความสามารถต้องใข้เวลาพัฒนานานหลายปี"

2.11) การบริหารคือการจัดการให้สิ่งแวดล้อมเหมาะสมในการทำงาน แนวคิดใหม่ การบริหารคือการจัดการให้งานสอดคล้องกับสิ่งแวดล้อที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

2.12) แนวคิดการบริหารคือการใช้ประโยชน์ในทางเศรษฐกิจจากทรัพยากรธรรมชาติ และสังคมให้ได้มากที่สุด ผลกระทบเป็นหน้าที่ของทุกคนในสังคมที่ต้องร่วมกันรับผิดชอบ
ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งในประเทศกำลังพัฒนา (อันนี้เห็นได้เลยจากฝุ่นPM2.5ในบ้านเราวันนี้)
ในยุคหลังสมัยใหม่ เริ่มมีการประกาศนโยบายความรับผิดชอบต่อสังคมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
บางแห่งมีนโยบายเพื่อเป็นธุรกิจเพื่อสังคมที่ร่วมกันก่อตั้งโดยชุมชน เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ

2.13) แนวคิดในยุคสมัยใหม่ที่ว่าฝ่ายบริหารมีหน้าที่ในการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ สังคมและการเมืองเป็นเรื่องสำคัญ แต่ในยุคหลังสมัยใหม่เป็นเรื่องยากและต้องใช้ทรัพยากรมาก
แนวคิดได้เปลี่ยนไปฝ่ายบริหารควรมีหน้าที่ในการติดตามการเปลี่ยนแปลงสภาวะทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง

2.14) แนวคิดที่ว่าฝ่ายบริหารมีหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง นั้นส่งผลให้องค์การสูญเสียความสามารถเพราะ ผู้บริหารไม่สามารถแก้ไขปัญหา และสูญเสียความมั่นใจ
ในยุคหลังสมัยใหม่ ฝ่ายบริหารจึงควรมีหน้าที่ เปิดโอกาสให้สังคมตรวจสอบองค์การได้อย่างโปร่งใส
โดยการบริหารแบบใช้หลักธรรมาภิบาล ซึ่งนับว่าเป็นทางออกที่ดี

2.15) ฝ่ายบริหารมีหน้าที่ในการให้การศึกษา การพัฒนาองค์การให้ก้าวหน้าทันสมัย
ในช่วงแรกๆในยุคสมัยใหม่ได้รับการยอมรับ แต่ในยุคหลังไม่ได้รับการยอมรับอีกต่อไป
ฝ่ายบริหารควรส่งเสริมให้องค์การหรือสังคมเกิดการเรียนรู้ และสร้างทางเลือกใหม่ๆ
เพื่อสร้างองค์การหรือสังคมให้เข้มแข็ง สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเองและสามารถแก้ปัญหาได้ในยามวิกฤต เพราะลำพังฝ่ายบริหารไม่สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว

2.16) แนวคิดการบริหารที่ว่าฝ่ายบริหารมีหน้าที่ในการรวมศูนย์การบริหารเพื่อสร้างเอกภาพ มีหน้าที่ในการสั่งการและควบคุม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสับสนในคำสั่ง แต่ในยุคหลังข้อมูลข่าวสารเดินทางง่ายขึ้น
แนวคิดนี้จึงไม่เป็นที่ยอมรับอีกต่อไป ในยุคหลังสมัยใหม่ฝ่ายบริหารต้องมีหน้าที่ในการเรียนรู้ความต้องการที่แตกต่างกันไป

โดยสรุปคือ แนวคิดการบริหารจะเห็นได้ว่ายุคโบราณ ยุคดั้งเดิม ยุคสมัยใหม่ ยุคหลังสมัยใหม่มีบริบทแตกต่างกับยุคปัจจุบันในหลายประเด็น
-- ด้านเทคโนโลยี
-- ด้านสังคมวัฒนธรรม
-- ด้านความร่วมมือในระดับชุมชนและสากล
-- ด้านปรัชญาการดำเนินชีวิต
-- ด้านหลักการบริหารจาก POLC ไปสู่ POLA
-- ด้านหลักการจัดการ แบ่งงานและรับผิดชอบร่วมกัน
-- ด้านการปกครอง และธรรมาภิบาล
-- ด้านปรัชญาการบริหาร
ถ้าอยากรู้รายละเอียดคร่าวๆ จะอยู่ในรูปตารางด้านล่าง







ปล. ทั้งหมดเขียนตามความเข้าใจล้วนๆ อันไหนเข้าใจผิดขอภัยด้วย วันไหนเข้าใจถูกจะเข้ามาแก้ไขให้ถูกต้องที่สุดต่อไป




















“ Death comes to all, but great achievements build a monument which shall endure until the sun grows cold. ” : Ralph Waldo Emerson


Goodluck,
Introvert man.

Tuesday, January 29, 2019

Read&Write : แนวคิดเกี่ยวกับการบริหาร : Chapter 2-1

(Photo : nnarawit.blogspot.com)


แนวคิดเกี่ยวกับการบริหาร
แบ่งออกเป็น 4ตอน
รอบนี้เป็นตอนที่2
แยกย่อยออกเป็น 2-1 และ 2-2
เนื้อหาเยอะเดียวอ่านกันตาลาย
ไปลุยตอนที่ 2-1 กันเลย
--------


หน้าที่ของการบริหารมี4อย่าง

1.) การวางแผน รวมๆจะเกี่ยวกับอนาคตขององค์การ เค้าบอกว่าองค์การที่สำเร็จส่วนใหญ่
มองเห็นหรือสามารถทำนายอนาคตขององค์การที่จะเกิดขึ้น มากกว่าที่จะรอตั้งรับผลกระทบ
การปรับตัวเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเปลี่ยนแปลง จุดเริ่นต้นที่ดีของความสำเร็จขององค์การคือ
การวางแผนที่เหมาะสม แม่นยำ ยืดหยุ่น และมีประสิทธิภาพ
-----


2.) การจัดองค์การ จะเป็นเรื่องการจัดลำดับหน้าที่ขององค์การให้มีประสิทธิภาพและสามารถบรรลุเป้าหมายได้
มีการกำหนดโครงสร้างองค์การ ขอบเขตการควบคุม ตลอดจนสายการบังคับบัญชาให้เหมาะสม
การจัดการนี่จะมีเรื่องมากหน่อยเพราะเกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องอำนาจและคน
และเรื่องขอบเขตการควบคุมมี2แบบ แบบกว้าง กับ แบบแคบ
  -- แบบแคบส่วนใหญ่จะเน้นที่การทำงานในระดับสูง-กลาง เพราะมีการรวมอำนาจและผู้ใต้บังคับบัญชาไม่ใช่ผู้ปฏิบัติงานวิชาชีพ(ไม่ได้ต้องการอิสระมาก)
  -- แบบกว้างก็ตรงข้ามกัน เน้นการทำงานระดับล่างมีการกระจายอำนาจ
ถ้างงนะดูตามภาพเลยง่ายๆ

ยังไม่จบนะยังมีเรื่องเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการและฝ่ายแนะนำปรึกษาอีกด้วย
ความสัมพันธ์ของสองฝ่ายนี้เป็นความสัมพันธ์ที่สำคัญมากขององค์การ
ก็ตามชื่อฝ่ายปฏิบัติการเนี่ยรับผิดชอบโดยตรงต่อความสำเร็จตามเป้าหมายขององค์การ
ฝ่ายให้คำแนะนำปรึกษา ช่วยเหลือสนับสนุนฝ่ายปฏิบัติการให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น

ยกตัวอย่างง่ายๆเช่น เรามีผู้จัดการทั่วไปใหญ่ที่สุด
ผู้จัดการฝ่ายวิจัย ก็ขึ้นตรงกับผู้จัดการทั่วไป
แต่ผู้จัดการฝ่ายวิจัย ก็มีหน้าที่ให้คำปรึกษาผู้จัดการฝ่ายการตลาดด้วย
แต่ไม่มีหน้าที่สั่งการผู้จัดการฝ่ายการตลาด ได้เพียงแค่สนับสนุนกัน
เพราะผู้จัดการฝ่ายทุกฝ่ายจะขึ้นตรงกับผู้จัดการทั่วไปเท่านั้น
ง่ายๆเนอะ ไปต่อได้เลยจบละ
-----


3.) การนำ ก็ตามชื่อเป็นการชักจูง หรือสร้างแรงบันดาลใจให้กับพนังการในองค์การร่วมกันปฏิบัติงาน
ไปตามเป้าหมายที่กำหนดให้ประสบความสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพพ
การนำขึ้นอยู่กับผู้นำและวัฒนธรรมองค์การด้วย คือถ้าผู้นำเผด็จการก็ตามนั้น
ผู้นำอิสระเสรี คงหายากหน่อย ผู้นำประชาธิปไตย

แต่อย่างไรก็ตามเค้าบอกว่ามนุษย์ไม่ชอบรับคำสั่ง เพราะงั้นการนำจึงต้องมีศิลปะโดยทำให้ผู้รับคำสั่งมีความรู้สึกว่าคำสั่งนั้นเป็นส่วนรวมไม่ได้เป็นการส่วนตัว เรื่องขององค์การเป็นเรื่องของทุกฝ่าย
ต่างฝ่ายต่างต้องมีความรับผิดชอบร่วมกัน

เพราะงั้นสรุป การนำที่ดีต้องอาศัยจังหวะ และโอกาสที่เหมาะสม การมีสายตาค้นหาศักยภาพของบุคคล
หรือการจัดทีมงานเพื่อสถานการณ์ต่างๆได้อย่างเหมาะสม
-----


4.) การควบคุม เราต้องควบคุมองค์การให้ไปตามเป้าหมายและมีประสิทธิภาพ
หลักในการควบคุมและกำกับการบริหารองค์การ ก็ต้องมีการติดตามวัดผล ปรับปรุงแก้ไขและป้องกัน
แนวทางในการควบคุมที่เหมาะสม ซึ่งการที่ผู้บริหารจะควบคุมทุกอย่างเป็นไปได้ยากมาก
เพาะงั้นควรควบคุมอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่ถูกต้อง
และไม่จำเป็นต้องทำทุกขั้นตอน เอาเฉพาะจุดสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน
ระบบการควบคุมต้องยืดหยุ่นและประหยัดอยู่บนพื้นฐานของที่กล่าวไปข้างต้น
ประมานนี้แหละ อย่างที่รู้ๆกันเนอะผู้บริหารคงมาดูทุกๆอย่างเองไม่ได้หมด
-----
--------


บทบาทของการบริหาร
มีบทบาท3ด้าน เป็นอย่างน้อย

1.) บทบาทด้านการตัดสินใจ เน้นๆเลยคือจัดการองค์การเมื่อเจอสิ่งรบกวนที่ไม่คาดคิด และติดต่อเจรจากับองค์การอื่นๆ
มีทั้ง "การตัดสินใจแบบมีฐานโครงสร้าง" ก็คือมีการวิเคราะห์หรือคิดกันไว้แล้วว่าจะตัดสินใจแบบนี้แบบนั้นตามข้อมูล และการสนับสนุนนด้านอื่นๆ
และ "การตัดสินใจแบบกึ่งโครงสร้าง" คือเหมือนแบบด้านบนแต่บางส่วนของด้านบนไม่สามารถทำได้ เลยต้องแก้ปัญหาตรางส่วนนั้นต่อไป
สุดท้าย "การตัดสินใจแบบไม่มีโครงสร้าง" มีความซับซ้อนไม่มีเครื่องมีช่วย มักเป็นปัญหาของผู้บริหารระดับสูง ต้องใช้สัญชาตญาณและประสบการณ์ของผู้บริหาร
-----


2.) บทบาทด้านข้อมูลและสารสนเทศ คือมี "ผู้ตรวจสอบ" ตรวจสอบข้อมูลค้นหาและรับข้อมูลมา ทำให้เกิดความเข้าใจในองค์การและสภาพแวดล้อมภายนอกที่ถูกต้อง
มี "ผู้เผยแพร่" ส่งข้อมูลจากภายนอก หรือจากหน่วยงานย่อยเข้ามาให้กับสมาชิกในองค์การ
และ "โฆษก" มีบทบาทที่จะส่งข้อมูลไปยังภายนอก ตามแผนหรือนโยบายขององค์การ
-----


3.) บทบาทด้านมนุษยสัมพันธ์ เช่นผู้บริหารก็มี บทบาทการเป็นหัวหน้า มีหน้าที่เป็นตัวแทนองค์การ
หรือบทบาทการเป็นผู้นำ กำหนดวิสัยทัศน์สร้างแรงบันดาลใจ
หรือเป็นผู้ติดต่อประสานงานกับหน่วยงานภายนอก หรือองค์การต่างๆ
ทั้งนี้ผู้บริหารที่ดียังต้องสามารถเป็นผู้นำได้ในทั้งยามปกติและยามวิกฤต
-----
--------






ปล. ทั้งหมดเขียนตามความเข้าใจล้วนๆ อันไหนเข้าใจผิดขอภัยด้วย วันไหนเข้าใจถูกจะเข้ามาแก้ไขให้ถูกต้องที่สุดต่อไป




















“ My attitude is, a monument, a statue, ought to signify unity instead of division. ” : Bill Nelson


Goodluck,
Introvert man.

Monday, January 28, 2019

Read&Write : แนวคิดเกี่ยวกับการบริหาร : Chapter 1

(Photo : tmc.rmutt.ac.th)


แนวคิดเกี่ยวกับการบริหาร
แบ่งออกเป็น 4ตอน
รอบนี้เป็นตอนที่1 ไปลุยกัน
--------


ตรงนี้ก็ไม่ค่อยมีอะไรมาก เป็นเรื่อง "ความหมายและความสำคัญของการบริหาร"
-- สรุปง่ายๆความหมายของการบริหารคือ
การเปลี่ยนวิสัยทัศน์ให้เป็นเป้าหมายเพื่อความชัดเจน ฝ่ายปฏิบัติจะได้สามารถจัดการได้ต่อไป
-- ส่วนกระบวนการบริหารก็มี วางแผนกำหนดนโยบาย จัดการบุคลากร
นึกภาพท่านผู้นำ หรือCEO หรือนายกก็ได้ อะไรที่เป็นผู้นำของสิ่งใหญ่ๆนั่นแหละ

แต่มีข้อสำคัญที่ทำให้แตกต่างกับผู้จัดการตรงที่
ผู้บริหารต้องดำเนินสิ่งเหล่านั้นให้เกิดประสิทธิภาพสูงที่สุด
และงานนั้นต้องต่อเนื่องเป็นระบบ
และเติบโตต่อไปได้ด้วยการร่วมมือกันของทุกฝ่าย
คือไม่ใช่สักแต่จะใช้งาน
แต่ต้องรู้จักจูงใจฝ่ายต่างๆให้ร่วมประสานงานกันจนลุล่วง
--------------


ตรงนี้ก็ไม่ค่อยมีอะไรเช่นกัน เป็นเรื่องคำว่า "องค์การ กับ องค์กร"
สรุปง่ายๆ องค์กรคือส่วนย่อยขององค์การ
องค์กร ภาษาอังกฤษ Organ
องค์การ ภาษอังกฤษ Organization
องค์การจะจัดระเบียบสิ่งที่ทำหน้าที่แตกต่างกันให้สัมพันธ์กันประสานกันไปตามเป้าหมายร่วมกัน
เปรียบเทียบองค์กรเป็นฟันเฟืองต่างๆทำหน้าที่แตกต่างกันไปพอนำมาประกอบกันและทำให้มันใช้งานได้อย่างเป็นระบบระเบียบนั่นก็คือ องค์การ โดยอาศัยหลักการบริหาร
------------------


ส่วนนี้ก็เป็นเรื่อง "ความเหมือนและแตกต่างระหว่างองค์การภาครัฐและองค์การภาคเอกชน"
เรื่องนี้โดยสรุปองค์การทั้งสองเนี่ยมีหลักการใหญ่ๆเหมือนกันเลย
เพียงแต่ในรายละเอียดปลีกย่อยนั้นมีความแตกต่างกัน เดียวจะยกตัวอย่างดู เช่น
-- วัตถุประสงค์และเป้าหมายอันนี้ชัดเจนเลย
รัฐต้องสร้างความเท่าเทียม และความผาสุกของประชาชน
เอกชนมุ่งเน้นกำไรเป็นหลัก เรื่องรองก็ช่วยเหลือสังคมเล็กน้อย
-- เงื่อนไขสำคัญของกลไกการบริหาร
รัฐนี่กลไกการเมืองมักเข้ามาชี้นำการบริหารมากกว่าประชาชน
เอกชนจะถูกชี้นำด้วยกลไกการตลาด ที่ถูกกำหนดด้วยความพึงพอใจของลูกค้า(ประชาชนนั่นเอง)
-- ทิศทางองค์การ
รัฐนี่ก็มักถูกแทรงแซงจากการเมือง เพื่อความอยู่รอดของนักการเมือง
เอกชนสามารถกำหนดทิศทางเองได้ เพื่อความอยู่รอดขององค์การ

แล้วก็ยังมีความแตกต่างเรื่องอื่นๆอีกเช่น
ความไวต่อสภาพแวดล้อมทางการตลาด
สภาพแวดล้อมทางด้านกฏระเบียบที่ใช้ควบคุมก็ต่างกัน
โครงสร้างภายในและกระบวนการทำงานก็ต่างกัน
ความคาดหวังจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ทั้งหมดส่งผลให้ทั้งสององค์การมีนโยบาย กระบวนการปฏิบัติและการพัฒนาไปในทิศทางที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

เค้าได้ยกตัวอย่างนโยบายค่าแรง300บาทขึ้นมาด้วย คิดว่าหมายถึงส่งผลดีต่อรัฐ
แต่ส่งผลเสียต่อภาคเอกชนมากจนต้องหากลยุทธ์และปรับตัวเพื่ออยู่รอด
และเค้ายกเรื่องรถคันแรกมา ว่าส่งผลเสียต่องบประมาณภาครัฐกว่าแสนล้านบาท
แต่ส่งผลดีต่อภาคเอกชน เหมือนว่าจะสลับๆกันไป
------------------------


แต่เราคิดว่าถ้ามองเป็นรายองค์กรแล้วดูท่าจะ เอิ่มมม
แต่ถ้ามองในมุมองค์การก็คงดีละมั้ง ฮ่าๆๆ
อันนี้ไม่ได้โยงการเมืองอะไรนะ หนังสือเขียนมาว่าไปตามนั้น ไม่ดราม่าดักไว้ก่อน

ครั้งต่อไปคิดว่าคงเป็นเรื่องการบริหารเต็มๆแล้ว
ครั้งนี้เป็นแค่การเกริ่นนำเรื่องเฉยๆ
รายละเอียดเลยยังไม่เยอะ




ปล. ทั้งหมดเขียนตามความเข้าใจล้วนๆ อันไหนเข้าใจผิดขอภัยด้วย วันไหนเข้าใจถูกจะเข้ามาแก้ไขให้ถูกต้องที่สุดต่อไป




















“ As I enter a new phase of life and my circle broadens, I start learning new things. ” : Kapil Dev


Goodluck,
Introvert man.

Saturday, January 26, 2019

CWS-2019 : จบWeek4 : Out of comfort zone


https://www.myfxbook.com/members/Cassowaryleague/cws-2019-swingtrade-imht-pipatara/2793222
เข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามลิงค์
-------------------



พอร์ทCassowaryสัปดาห์ที่ผ่านมาเราคัททิ้งไปครั้งใหญ่
เพราะติดดอย และมีความคิดแว๊บเข้ามาในหัวว่า
เราควรปรับเปลี่ยนอะไรบ้างแล้ว
ถ้ายังคงเทรดแบบนี้ต่อไปแย่แน่ๆ
เราคงไม่ได้พัฒนาอะไรดังใจที่หวังไว้

เราเลยทำการยกเครื่องใหม่เลย
ทำการปรับเปลี่ยนแผนการหรือกลยุทธ์ใหม่
โดยเอาพอร์ทแข่งปี2019นี้เป็นForward testเลย
เพียวๆแบบไม่ได้Back testด้วย
เพราะสิ่งที่กำลังจะทำหลังจากนี้ต่อไป
จะเป็นการเทรดที่ไม่เคยทำมาก่อน
เพียงแค่คิดไว้ในหัวเล่นๆ บวกกับเรายังไม่กล้า
ออกจากcomfort zoneของตัวเอง
แต่....คงได้เวลาแล้วหล่ะ

หลังเดือนมกราคมนี้เป็นต้นไป
คงได้เห็นอะไรใหม่ๆจากเราบ้าง
ไม่คัทกระจายก็บวกกระจุย
------------

เรามองDDเอาเป็นแกนก่อนละกัน
และReturnมาทีหลัง
โดยมีหลักการสำคัญเลยคือ
"ถ้าDDถึง100centให้คัททิ้งทั้งหมดทันที"
กำไรจะติดลบหรือป่าวไม่ต้องสนใจ
ถ้าDDพุ่งถึง...ให้ตัดจบ แล้วมาเริ่มใหม่

เราคิดว่าตรงนี้จะพอช่วยเรื่อง
กติกาที่ห้ามอมของเกิน90วันได้
เพราะนิสัยเราปกติแล้วจะชอบอมของ
ทองเราอมไว้1347ยาวๆ เดือนหน้าถือครบ1ปีละ


การคัทจบแบบนี้เราไม่เคยทำเลย
เรียกว่า2-3ปีที่ผ่านมาไม่มีความคิดนี้เลย
เพราะเราถือดอยอย่างเดียว วางเงินไว้จบไม่ต้องคัทอะไร
แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไป เราคงต้องเปลี่ยนการทำกำไรตามไปด้วย
คิดไว้เล่นๆคือ เบิ้ลล็อต ไปเลยง่ายดี
แต่เดียวต้องดูก่อนว่ายังไงดี ตอนนี้คุมDDตามแผนไป

รู้สึกสนุกขึ้นมาอีกแล้วสิ่
น่าจะได้ประสบการณ์แปลกๆใหม่ๆก็ครั้งนี้
ถ้าเวิร์ค น่าจะเอาไปทำอะไรได้อีกเยอะเลย
แต่ถ้าล้มเหลวก็ยิ่งสนุกไปอีก
เพราะเราดื้อ ยังไงก็จะหาหนทางทำมันจะสำเร็จให้ได้
ไม่ว่าปีนี้หรือปีหน้า หรือปีต่อๆไปก็ตาม
เพราะรางวัลที่ได้รับมันจะยิ่งใหญ่กว่าตัวเงินแน่นอน



















“ Luck is a very thin wire between survival and disaster, and not many people can keep their balance on it. ” : Hunter S. Thompson


Goodluck,
Introvert man.

Monday, January 21, 2019

Runtastic : 50โลแรก



อากาศแถวที่เราอยู่ช่วงนี้ไม่ค่อยดีเลย
ถึงขั้นแย่เลย ติดอันดับTop3ของประเทศ
แล้วเราต้องออกไปวิ่งข้างนอก
เลยเลือกช่วงเวลาเหมาะๆ เท่าที่คิดว่าอากาศจะดีที่สุด
และวิ่งให้ได้ระยะมากที่สุด จะได้ไม่ต้องออกไปบ่อย
ทำให้เป้าหมายสำหรับเดือนนี้ครบกำหนดแล้ว

ก็คงพักยาวออกไปวิ่งอีกทีคงเดือนหน้า
หรือช่วงที่อากาศดีขึ้นกว่านี้
เราเป็นภูมิแพ้แน่นอนอยู่แล้ว
จำเป็นต้องรักษาปอดเอาไว้ก่อน



Avg. Pace ยังคงอยู่ที่7กว่า
เพราะหยุดวิ่งไปนาน และกลับมาวิ่งก็หยุดๆหายๆ
จากสภาพอากาศด้วยอะไรด้วย
พยายามวิ่งให้ดีที่สุดแล้วได้เท่านี้
กลางปีค่อยว่ากัน ให้ฝุ่นหายไปก่อน




















“ I can think. I can sleep. I can move. I can ride my bike. I can dream. ” : Bill Walton


Goodluck,
Introvert man.

Sunday, January 20, 2019

Ready player one : มันมาจากไหน

(เราชอบฉากนี้เอง แคปมาจากหนัง)
(เป็นรอยยิ้มที่เราว่าออกมาจากใจจริงๆ ผสมผสานหลากหลายอารมณ์และความรู้สึกในรอยยิ้มเดียว)



เหมือนเดิมอย่าคาดหวังความรู้หรือข้อมูลจากเราเลย
เราพยายามเขียนทุกอย่างจากความรู้สึกและความคิดเราจริงๆ
พยายามไม่เสริมแต่งมากเกินไป ให้มันออกมาrealที่สุด
และพยายามทำตามสิ่งที่คาดหวังให้ได้ในชีวิตนี้
------------------

วันนี้มีโอกาสได้พักผ่อนเลยเลือกกลับไปดูหนัง
เรื่อง Ready player one
ซึ่งมีประโยคเด็ดของหนังที่พูดในตอนจบคือ
"reality is the only thing that's real"
และที่Hallidayพูดไว้ตอนให้ไข่อีสเตอร์
"reality is real"


ได้ทำให้เราคิดถึงเรื่องของตัวเอง
และผู้คนรอบกายของเรา
คงไม่มีใครอยากลงเอยเช่นเดียวกับHalliday
แต่แน่นอนทุกวันนี้โลกผลักดันให้เราเป็นอย่างนั้น
จะเปรียบโลกเป็นOasisได้ไหม
จะเปรียบเราตื่นนอนเป็นการเข้าไปในเกมส์ได้ไหม
จะเปรียบการเก็บเหรียญเป็นการหาเงินได้ไหม
Planet doom ก็คงจะเป็นตลาดทุนที่คนฆ่าฟันกันเพื่อให้ได้เงิน
และรางวัลใหญ่ที่มีคนเอามาวางล่อตาล่อใจเรา

ที่เราบอกว่าโลกผลักดันเรา
เพราะไม่ใช่เราผลักดันตัวเอง
กติกาพวกนี้ถูกวางมาไว้ก่อนเราเกิด
เราเกิดมาจึงต้องเล่นตามเกมส์
ตรงนี้จึงทำให้เราฉุกคิดได้ว่า
มนุษย์เราเกิดมาในสมัยก่อน
เราต้องการเพียงไม่กี่อย่างให้ดำรงพันธุ์
แต่ทุกวันนี้เราถูกหลอมไปด้วยความคิดเห็น
และความต้องการจากคนอื่นๆรอบตัวเรา
มันไม่ได้เกิดจากตัวเราเองจริงๆหรอก
มันถูกโปรแกรมเข้ามา และก็ใช้งานเราเท่านั้น
ทุกวันนี้ความต้องการของมษุนย์มากเกินไปไหม

สำหรับใครอื่นเราไม่อาจไปรู้
แต่ในมุมมองเรา เกมส์มันออกแบบมาแล้ว
เราเป็นผู้เล่นในเกมส์นี้แล้ว
เราปฏิเสธหรือหนีออกไปไม่ได้
เราต้องตายในโลกจริงเท่านั้น เกมส์ถึงจะจบ
ถ้าเช่นนั้นเราจึงต้องตั้งใบเรือให้ถูกทิศ
แล้วไหลไปกับโลกนี้ให้สบายๆ

ณ ตอนนี้เรือของเรามุ่งหน้าชัดเจน
เราพัฒนาตัวเอง พัฒนาคนรอบข้างใกล้ชิด
ไล่ระดับออกไปจนถึงบุคคลอื่นๆที่เราไม่รู้จัก
ด้วยเป้าหมายที่ชัดเจนคือ "เราและครอบครัวมีความสุข"
ส่งต่อความสุขออกไปยังสังคมถ้าทำได้
ปลูกฝังทัศนคติและจิตสำนึกที่ดีให้ลูกหลาน
ส่งต่อสิ่งเหล่านี้ออกไปเป็นแรงกระเพื่อม
โดยคาดหวังว่าในอนาคตมันจะขยายวงกว้างไปเรื่อยๆไม่รู้จบสิ้น

และแน่นอนสิ่งสำคัญคือ "ไหลไปตามเกมส์"
เกมส์นี้ต้องใช้เงินในการแสวงหาเป้าหมายของเรา
เช่นนั้นเราก็ไปตามมัน จนกว่า....
วันนึงกติกาของเกมส์นี้จะเปลี่ยนไป

หากวันนี้ใครทุ่มเท จนละเลยสิ่งสำคัญในชีวิตไป
ไม่ว่าอะไรหรือใครจะเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตคุณ
ขอให้วันที่อ่านบทความนี้คุณได้โทรไป...
หรือแสดงความรู้สึกดีๆ ให้กับสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของคุณ
มอบพลังด้านบวกให้กัน บอกรักเค้าในวันที่คุณยังสามารถทำได้

ขอให้มีความสุขกับวันหยุดพักผ่อนกันทุกคน
------------------


เรารู้สึกอย่างไรก็เขียนเช่นนั้นออกมา
อาจจะไม่เข้าใจหรือสับสนบ้าง ขออภัยด้วย
ถ้ามีเพิ่มเติมจะเข้ามาแก้ไขให้สมบูรณ์ภายหลัง



















“ Remember there's no such thing as a small act of kindness. Every act creates a ripple with no logical end. ” : Scott Adams


Goodluck,
Introvert man.

Saturday, January 19, 2019

CWS-2019 : จบWeek3 : เก็บเกี่ยว

https://www.myfxbook.com/members/Cassowaryleague/cws-2019-swingtrade-imht-pipatara/2793222
เข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามลิงค์
-------------------



พอร์ทCassowaryตอนนี้เราปิดออร์เดอร์ไปบางส่วน
เพราะว่าตกใจราคาดีด บวกกับว่าพอใจในกำไรบ้าง
เราเก็บกำไรเอามาไว้ก่อน
แล้ววางแผนใหม่เก็บคู่GBPNZDเป็นหลัก

ซึ่งเราหวังค่าswapเป็นแกน
และราคาสวิงขึ้นลงแรงเป็นรอง
เรามองข้ามไปเดือนหน้าแล้ว
สำหรับเดือนนี้คิดว่าไม่น่าจะเก็บกำไรเข้าพอร์ทละ
อาจจะปล่อยราคาสวิงไป
มากขึ้นหรือน้อยลงก็เอาแค่นั้น
แล้วค่อยไปเก็บกำไรเอาเดือนหน้า
------------

เดือนนี้เราโอเคมากๆเลย
เพราะพอร์ทหากินก็เก็บเกี่ยวผลผลิตได้งดงาม
ทำให้เราได้cfมามากที่สุดในรอบ2ปีเลย
เลยทำให้มีcfไปปั้นพอร์ทเล็กอีกแล้ว
เป้าหมายคือเร่งผลตอบแทนให้มากกว่า100%
โดยใช้เวลาอันสั้นที่สุดเท่าที่ทำได้

เราพยายามขยายกองทัพให้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
และเร็วที่สุดเท่าที่เรารับความเสี่ยงได้
เราก็ขอให้เดือนต่อๆไปปีต่อๆไป
เราพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆ
และพอร์ทโตขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน



















“ Work like you don't need the money. Love like you've never been hurt. Dance like nobody's watching. ” : Satchel Paige


Goodluck,
Introvert man.

Monday, January 14, 2019

Read&Write : Econ : ความเป็นมา

(Photo : twitter.com/goodiebooks)


วันนี้เราตัดสินใจเริ่มการเดินทางใหม่
(จริงๆก็ไม่ใหม่หรอก แต่จะนำมาทำเป็นSeriesภาคใหม่)
ก็คือ เราจะบันทึกเนื้อหาในหนังสือ หรืออะไรที่น่าสนใจจากการอ่านของเรา
ซึ่งหนังสือของเราเป็น "หนังสือเรียนของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช"
ระดับปริญญาตรี คณะ เศรษฐศาสตร์ เอก เศรษฐศาสตร์
เราคิดไว้ว่าจะบันทึกทุกวันที่เราว่าง เพื่อให้เกิดActivityสูงสุด
ซึ่งสัปดาห์นึงเราก็พอมีเวลาราวๆ5วัน
เสาร์-อาทิตย์ก็จะว่างเยอะหน่อย

คือเราเองยังไม่มีใบปริญญาสักใบ
เราเปลี่ยนที่เรียนมาก่อนหน้า
พระจอมเกล้า วิศวะเครื่องกล 2ปีลาออก
ธุรกิจบัณฑิตย์ ออกแบบภายใน 1ปีลาออก
มสธ. เศรษฐศาสตร์ 2ปี กำลังศึกษาอยู่

ก่อนสมัครมสธ.เราคิดอยู่นานนะเป็นปีๆเลย
ตอนแรกไม่อยากเรียน แต่คิดไปคิดมาก็ตัดสินใจสมัครไป
(อาการคล้ายๆตอนสมัครCassowaryเข้าแข่ง)
และเราเองวางเป้าหมายว่าจะจบอย่างน้อยต้องเรียน6ปี
แต่ไม่เกิน10ปี ซึ่งขัดแย้งกับท่านแม่มากๆ เค้าอยากให้เราจบให้เร็วที่สุด
เราเองยังไม่รู้จะจบภายในกี่ปี
แต่ก็ไม่อยากเร่งตัวเอง
เราอยากได้ความรู้จริงๆ เนื้อหา ข้อมูลจริงๆ
ผ่านการอ่านหนังสือ และหาความรู้ด้วยตัวเอง

เราบอกกับตัวเองตั้งแต่วันแรกที่สมัคร
ว่าเราจะเรียนเพื่อเอาความรู้ด้านนี้จริงๆ
ไม่ใช่เอาใบปริญญามาหางานทำ
ซึ่งขัดแย้งกับพ่อแม่เรา แบบสวนทางเลย
เราก็ยังไม่ได้เคลียร์ปัญหาตรงนี้เลย
แต่ช่างมันก่อน
เราตั้งใจมาบันทึกนี้เพื่อเป็นEP.1
เราจะอธิบายความเป็นมาในการทำSeriesนี้

สิ้นเดือนนี้เราจะสอบละ
คงเขียนไม่ทันกับวิชาที่เรากำลังจะสอบ
เลยคิดว่าคงได้เริ่มกันในวิชาของเทอมหน้า
นั่นคือ "เศรษฐมิติและการประยุกต์" และ
"ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการบริหาร"
ซึ่งรู้ไหมทำไมเราลง2วิชานี้ในเทอมหน้า?
เพราะเป็นเพียง2วิชาที่วันสอบอยู่ในวันเดียวกัน
เดินทางไปสอบวันเดียวจะได้จบ
เอาง่ายๆอย่างงี้เลย
เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่า2วิชานี้เรียนเกี่ยวกับอะไรบ้าง
แต่สู้โว้ย ฮ่าๆ

ข้อดีของการเขียนบันทึกที่เราคิดว่าจะได้
คือการที่เราจะได้ความละเอียดรอบคอบขึ้น
เพราะเราจะต้องอ่านให้เข้าใจ ทุกรายละเอียดจริงๆ
ก่อนที่จะมาย่อยเพื่อบันทึกต่อไป
เราพยายามที่จะบันทึกทุกอย่างให้ถูกต้อง
และพยายามจะไม่มโนไปเอง
เพราะข้อมูลความรู้จำเป็นต้องถูกต้อง และปราศจากการมโน

ขอตัวไปอ่านหนังสือต่อ
คาดว่าสอบสิ้นเดือนนี้ตกแน่ๆ
มัวแต่ไปทำอะไรไร้สาระ แหะๆ
แต่เทอมหน้าต้องผ่านฉลุย Hรัวๆ



ปล. หากเพิ่มเติมอะไร จะเข้ามาแก้ไขภายหลังต่อไป
















“ The best advice I ever got was that knowledge is power and to keep reading. ” : David Bailey


Goodluck,
Introvert man.

Sunday, January 13, 2019

Digitrade : Copy : ฟรี



พอร์ทCassowaryของปี2018
ที่เราเคยเทรดนั้นไม่ได้หายไปไหน
เพียงแต่เรานำออกจากMyfxbookแล้ว

ซึ่งเราผูกไว้กับMql5 แต่ติดปัญหานิดหน่อย
ช่วงนี้จึงยังไม่สามารถเปิดให้Copyฟรีได้
(เจ้านี้น่าจะCopyกันได้ง่ายกว่า)
ตรงนี้เราเลยมาบอกกล่าวไว้ว่า
https://my.digitrade.pro/performance/14309
เราผูกพอร์ทนั้นไว้กับเจ้านี้เช่นกัน
สามารถCopyแบบฟรีๆได้เหมือนกัน
----

แต่.....
ควรเปิดเพียงบัญชีเดโม่แล้วนำไปCopy เพราะมันจะฟรี
ถ้าเอาบัญชีจริงไปCopyอาจจะเสียเงินค่าCopyได้
ระวังตรงนี้ด้วย ไม่อยากให้เสียตังค์กัน

บัญชีเดโม่ก็สามารถCopyได้
เอาไว้ดูหรือติดตามพอร์ทนี้ได้
เพราะช่องทางอื่นๆ เราตั้งPrivateไปหมดแล้ว
แต่พอร์ทยังคงดำเนินการเทรดต่อไป

ลักษณะการเทรดของพอร์ทนี้
จะมีการเปลี่ยนแปลงนิดหน่อย
เพื่อเร่งผลตอบแทน(ถ้าทำได้หรือมีโอกาส)
แต่ยังคงข้อจำกัดด้านความเสี่ยงปานกลางเอาไว้
แน่นอนว่า "ไม่ล้างพอร์ท" เป็นหัวใจสำคัญ
----

หากCopyพอร์ทเดโม่ สิ่งสำคัญคือ
ขนาดของLot sizeควรสัมพันธ์
กับขนาดของเงินทุนในพอร์ทท่านเองด้วย
ไม่เช่นนั้นต่อให้เทรดตาม
แต่พอร์ทจริงท่านดันไปใส่ Lot size ใหญ่มากๆ
อาจทำให้ท่านสูญเสียเงินทุน เรียกว่า "ค่าโง่" ได้
เตือนท่านที่อยากลองCopyด้วยความหวังดี

พอร์ทนี้คิดเงินทุน 5,000CENT หรือจำลองเป็น 5,000USD ได้
เพราะงั้นถ้าท่านมีเงินทุน 50USD ควรเปิดพอร์ท CENTหรือMicro
Lot sizeก็จะยิงที่ขั้นต่ำไม้ละ 0.01
Lot รวมทั้งหมดคาดว่าไม่น่าเกิน 0.3
ถ้าเงินทุนท่านมากหรือน้อยกว่านี้
ให้คำนวนและแปลงขนาดด้วยตัวเอง


















“ I not only use all the brains that I have, but all that I can borrow. ” : Woodrow Wilson


Goodluck,
Introvert man.

Saturday, January 12, 2019

CWS-2019 : จบWeek2 : พยายามมีสติ

https://www.myfxbook.com/members/Cassowaryleague/cws-2019-swingtrade-imht-pipatara/2793222
เข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามลิงค์
-------------------


พอร์ทCassowaryตอนนี้เรายังไม่ได้Actionอะไร
ล่าสุดก็ปล่อยมันวิ่งไป เรามัวแต่ยุ่งกับพอร์ทหากิน
และเรื่องการศึกษาโบรคเกอร์ที่อยากทำPAMM
ดันได้ข่าวว่าAlpariที่เราเล็งไว้มีปัญหาอะไรสักอย่าง
เศร้าเลย กลายเป็นว่าตัวเลือกเราหายไป

สัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวGBPเข้ามาเรื่อยๆ
แต่เราไม่ได้สนใจGBPเท่าไหร่
เลยทำการLong+shortไปแต่คนละคู่กัน
เราbuy GBPCHF
sell GBPAUD
พอข่าวGBPมาเมื่อคืนวันศุกร์
เราเลยรอดตัวไปเพราะมันไปทางไหนเราก็โอเค
อันนี้วางแผนมาแล้วนะ ไม่ได้บังเอิญ ฮ่าๆ

แต่ที่โชคดีจริงๆคือ พอร์ทหากิน
อย่างที่รู้ๆกัน เราเคยบอกไปแล้วเราชอบGBP
เราสะสมเพราะมีเหตุผลของเราเอง
สัปดาห์ที่ผ่านมาเราเลยเริ่มได้รับผลผลิตกลับมา
หลังจากดอยมาพักใหญ่ๆ
เลยมัวไปวุ่นๆ ไม่มีเวลาดูพอร์ทแข่งขัน
------------

มาย้ำความโหดร้ายของลีคปี2019อีกรอบ
ยังไม่ทันครึ่งเดือนแรก ก็ซัดกันไปแล้ว+3-4% OM_G
คือแบบว่าโหดกันมากมาย

เราก็ตามเคย พยายามไหลไปเรื่อยๆ
ขอแกะคนเก่งๆเอา ว่าเค้าเข้า-ออกประมาณไหน
อยากเรียนรู้ว่า"ทำไมเค้าทำอย่างนั้น"
ตรรกะ ทัศนคติ มุมมอง เค้าเป็นอย่างไร



















“ A mind all logic is like a knife all blade. It makes the hand bleed that uses it. ” : Rabindranath Tagore


Goodluck,
Introvert man.

Thursday, January 10, 2019

USOIL : น้ำมัน : ไปตามโซน



ต่อจากhttps://im-ht.blogspot.com/2019/01/usoil-bet.html
น้ำมันยังคงวิ่งในโซนล่างอยู่
ทำให้เล่นรอบ แล้วholdไปได้ทั้งสองอย่าง
รอบนี้holdขึ้นมานิดเดียว
เพราะไม่ค่อยได้โฟกัสมากเท่าตัวอื่น

ไม้betก็มีกำไรละขายออกไปเรียบร้อย
ไม่ลุ้นขึ้นชนโซนเก่า
เอาไม้เล็กๆลุ้นขึ้นไปแทน
-------

แผนตอนนี้ก็ถือไม้เล็กขึ้นไปโซนบนแล้วขายออก
และรอดูท่าทีต่อไป ถ้าราคายังแรง
จนได้ขยับไปเล่นโซนบนอีกครั้ง
เราก็มีกระสุนที่พร้อมยิงรออยู่แล้ว
ตอนนี้เพียงรอดูว่าราคาจะไปได้ไกลแค่ไหน

ตอนนี้ของเราน้อยขายไปหมดแล้ว
เลยยังไม่คิดเล่นขาsell
ราคาอยู่ในโซนที่เราไม่ได้วางแผนshortไว้ด้วย





















“ The worst thing that happens to you may be the best thing for you if you don't let it get the best of you. ” : Will Rogers


Goodluck,
Introvert man.

Tuesday, January 08, 2019

Runtastic : แอคทีฟแรก..ก็ร่วงเสียแล้ว


เปิดตัวรอบแรกของปี
ก็เน่าสะแล้ว

เราหยุดวิ่งไปได้2สัปดาห์ได้
วันนี้มาวิ่งได้3กิโลเท่านั้น
เพราะหลังเท้าพองแดงและแสบมาก
จนไม่สามารถทำการวิ่งต่อไปได้
เราจึงหยุดฝืน แค่นี้เราก็ต้องพักเท้าไป2-3วัน
เพื่อรอให้อาการหายดีสะก่อน
ค่อยกลับมาวิ่งใหม่อีกครั้ง

แต่ช่วงก่อนที่พักวิ่งไป เราก็เปลี่ยนไปออก
เป็นเวทแทน เพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อกลับมา
แต่ก็ได้ไม่มาก อัพโปรตีนพวกเนื้อ ไข่ขาวเข้าไป
หวังว่าจะฟิตกลับมาวิ่ง2019ได้

เราตั้งเป้าไว้ชิวๆ600กิโลเมตรในปีนี้
แต่เปิดตัวมาก็.....เจ็บเท้าสะละ
เราคงกลับไปเพิ่มกล้ามเนื้อต่ออีกหน่อย
แล้วถ้าเท้าหายดีค่อยกลับไปวิ่งต่อ



ปล. บันทึกไว้ ปีนี้รู้สึกขี้เกียจมากกว่าปกติ(ในหลายๆเรื่องเลย) พยายามหาสาเหตุจริงๆอยู่ว่าทำไม และจะแก้ไขโดยด่วน





















“ Follow your passion. The rest will attend to itself. If I can do it, anybody can do it. It's possible. And it's your turn. So go for it. It's never too late to become what you always wanted to be in the first place. ” : J. Michael Straczynski


Goodluck,
Introvert man.

Sunday, January 06, 2019

บันทึกพอร์ทต้นปี : สิ้นปีมาบันทึกใหม่

เนื่องด้วยว่าต้นปีเห็นหลายๆคนล้างพอร์ท
น่าเสียดาย แต่อีกมุมมองได้ว่าธรรมชาติคัดสรร
แม้CSจีนแดงก็เห็นได้ว่าล้างไป
หรือกองทุนMAM PAMMบ้างเจ้าก็ไปเช่นกัน
ก็โอเค เห็นออกมาขอโทษกันไปแล้ว
แต่ไม่รู้นายทุนว่ายังไง

อ่ะ กลับมาเรื่องของเรา (เราไม่ล้างนะ)
คือถ้าเข้าไปดูลิงค์ที่แปะไว้
นั่นคือบทความเก่า ที่เราแปะบันทึกพอร์ทไว้
ซึ่งวันนี้จะมาอัพเดทเพิ่มเติม
และแปะบันทึกทิ้งไว้อีกครั้ง
โดยจะไล่เรียงพอร์ทตามของเดิม

พอร์ทนี้อายุยาวนานที่สุด กำไรก็ไปเรื่อยๆไม่มากหวือหวา
เพราะวางเงินเต็มและมีการbetไปตามbufferที่มี
-------------------------
----------------
----------

พอร์ทนี้ก็อย่างที่เห็นกำไรน้อยที่สุดในบรรดาพอร์ทที่เราเทรดมา
แต่ช่วงนี้ก็พยายามเพิ่มเติมกลยุทธ์ใหม่ๆเข้าไป เพื่อสร้างflowให้มากขึ้น
-------------------------
----------------
----------

สองพอร์ทนี้ชื่อTwo Alpza
ที่มาที่ไปบอกไปก่อนหน้าแล้ว
และสองพอร์ทนี้ถอนทุนออกมาแล้ว ปล่อยกำไรรันต่อไป
-------------------------
----------------
----------

พอร์ทนี้เป็นพอร์ทเงินทุน ไม่ใช่cf เลยต้องเพลย์ซฟนิดนึงแต่ผลงานช่วงหลังมาการ
เปลี่ยนแปลงcoreของพอร์ททำให้betได้มากขึ้น
-------------------------
----------------
----------

พอร์ทนี้คือพอร์ทที่เราเคยแยกไปลงเดี่ยวแล้ว
เป็นพอร์ทที่คัททิ้งไปตอนสิ้นปี2018 และได้เริ่มใหม่ตอนต้นปีไปเรียบร้อย
ถอนต้นทุนออกแล้วเช่นกัน เอากำไรไปรันต่อ
https://im-ht.blogspot.com/2018/12/2019.html

-------------------------
----------------
----------

พอร์ทนี้เป็นพอร์ทเงินทุนรอบสุดท้ายที่เข้ามา
ยังมีกลยุทธ์ที่ไม่ค่อยโดดเด่น พยายามปรับเปลี่ยนอยู่
-------------------------
----------------
----------

พอร์ทนี้เป็นพอร์ทCF มาช้าสุดเป็นน้องสุดท้อง
แต่พยายามจะโชว์เก๋าให้พี่ๆเค้าดู ไม่รู้จะทำได้ดีแค่ไหน
-------------------------
----------------
----------


พอร์ทสุดท้ายเพิ่มเข้ามาใหม่ล่าสุด
หวังว่าจะเป็นอะไรที่ดี
และเราพยายามสร้างกองทัพให้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
เราพยายามใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
เราพยายามผสมผสานการยิงออร์เดอร์แบบTAตามสัญญาณ
และการยิงออร์เดอร์แบบGrid
และการยิงออร์เดอร์แบบกลยุทธ์ไปพร้อมๆกัน
ดูทรงก็คล้ายแนวคิดของKZMกองABCDแหละ
เราได้แกนไอเดียมาจากตรงนั้นเช่นกัน
(ขอบคุณลุงครับ ขอบคุณอีกแล้ว ขอบคุณลุงทุกบทความเลย)
ทั้งหมดที่เห็นก็ยังไม่ได้ครบทุกพอร์ทที่เรามีขาดอีก2-3อัน

เราจะบอกว่าการมีเงินทุนเป็นข้อได้เปรียบ
แต่ถ้ามีเงินอย่างเดียวก็ไม่ได้ ต้องมีskillด้วย
ขณะที่เรายังไม่มีเงิน เราสั่งสมskillให้มาก
แล้ววันนึงเราจะเจอนายทุนที่พร้อมจะส่งเสริมเราเอง
----------

ระดับเราเองยังถือว่าอ่อนข้อนักในทุกด้าน
ไม่ว่าจะTAหรือการคิดกลยุทธ์ที่ดี
เพราะพอเราได้เปิดโลกกว้าง แม้แค่ในประเทศนี้เอง
คนไทยด้วยกันหลายๆคน มีความสามารถล้ำหน้าเราไปไกลมาก
เรารับรู้ได้เลยว่าเรายังอยู่แค่ป.1
หากอยากขึ้นป.2 หรือขึ้นม.6ไปกับพี่ๆเค้า
เราต้องพัฒนาตัวเอง และต้องใช้เวลาด้วย
หากไม่อยากให้เวลาเสียเปล่า ต้องตั้งใจ
มุ่งมั่นไปกับมันทุกวินาที ไม่ว่าจะอาชีพอะไรก็ตาม

ไม่เข้าใจก็หาอ่าน ครูพักลักจำ
พอเริ่มเข้าใจก็ลงมือทำ
แล้วจะวนมาไม่เข้าอีกครั้ง
ก็ไปหาอ่านเพิ่มเติม ครูพักลักจำอีก
วนไปลงมือทำลึกขึ้น
แล้วก็จะวนมาไม่เข้าใหม่
วนไปเรื่อยๆเช่นนี้แหละ
ตอนนี้เราก็อยู่ในวนลูปไม่เข้าใจ
พยายามหาคำตอบหลายๆอย่างอยู่
แต่เราไม่หยุดทำนะ
----------

พอร์ทเราเองมีทั้งดีและไม่ดี
สลับกันไป เราถึงยังไม่กล้าออกไปทำPAMM
เพราะตรงนั้นต้องใช้พอร์ทเดียวโดดๆ
ซึ่งต้องมืออาชีพจริงๆนะ ถึงจะเอาอยู่

เราเองคอนโทรลตัวเองยังไม่ดี
ถ้าโดดออกไปเล่นจริงๆ ต้องกดดันมาก
เลยขอเวลากับตรงนี้ก่อน
ขอคิดวิธีกลยุทธ์ดู ว่าพอจะมีอะไรออกไปสู้ได้บ้าง
ในเงินทุนที่จำกัดและโอกาสก็น้อยครั้ง

การมีหลากหลายพอร์ท
หลากหลายกลยุทธ์ เป็นจุดแข็งของเราตอนนี้เลย
เราแทบจะจำช่วงเวลาที่เราเริ่มต้นจากพอร์ทเดียวไม่ได้แล้ว
(พอร์ทบนสุดเป็นพอร์ทแรกเริ่มของทั้งหมด)

แต่ยังไงก็บันทึกทิ้งไว้ก่อน
หวังว่าสิ้นปีที่จะมาบันทึกใหม่
คงยังไม่มีพอร์ทไหนล้างพอร์ทไปก่อนนะ



ปล. หากมีอะไรเพิ่มเติม คงเก็บไปบันทึกถัดไป หรืออาจจะแก้ไขอันเก่า
ปล2. พอร์ทที่แปะลงมานั้น ไม่ได้แปะพอร์ทCENTที่เราเอาไปแข่งเทรดในCWS2018และ2019
ปล3. ขอบคุณwww.mql5.comมา ณ ที่นี้ด้วย ด้วยการเก็บข้อมูลและการตั้งPrivateได้ และอะไรหลายๆอย่างเป็นไซต์ที่ดีมากๆอันนึงเลย

















“ I do everything I think possible or acceptable to escape from this trap. ” : Jacques Derrida


Goodluck,
Introvert man.