หากกลับมาอ่าน : ถึงตัวเองในอนาคต

(Photo : cjd-update.de)
(The School of Athens : artist Raphael)

ความเชื่อที่ฝังหัวเรา และเราจะยึดไว้ใช้ตลอดชีวิต คือ..
"อะไรที่ไม่เป็นธรรมชาติในชั่วขณะนึง จะต้องกลับมาเป็นธรรมชาติตามปกติ และวนไปแบบนี้ตลอดกาล"

เราเองพยายามไม่ก้าวก่ายความเชื่อใคร
เราคิดว่าทุกๆคนมีความเชื่อ และต้นกำเนิดความเชื่อ
ที่มาแตกต่างกันไป ธรรมชาติของเราเหมือนกัน
เรารวมกลุ่มความเชื่อเข้าด้วยกัน
แต่สุดท้ายก็มีส่วนแตก แยกออกมา
และเมื่อถึงเวลานึงมันก็จะวนกลับไปรวมกลุ่มอีกครั้ง
วนลูปที่(เราเชื่อว่า)เป็นธรรมชาติที่แท้จริง

ทุกๆอย่างเพียงพยายามจะเดินทางเป็นเส้นตรง
แต่จริงๆแล้วเมื่อผ่านเส้นทาง ต้องมีการเบี่ยงเบนและวกกลับ
วนไปวนมา และสลับกันไปมาเสมอๆ
ไม่มีอะไรเดินทางเป็นเส้นตรงได้จริงแท้100%

เราคิดว่าเรื่องนี้น่าจะมีทั้งฝรั่งและเอเชียคิดหรือเขียนมาก่อนแล้ว
(หรือไม่มีเราก็ไม่ทราบ)
ซึ่งเราเองไม่เคยอ่านหรือศึกษาเรื่องพวกนี้มาก่อน
เราเองเพียงพบเจอและศึกษาตามชะตาชีวิตและประสบการณ์ตัวเอง
จึงคิดว่าเราควรจะบันทึกอะไรทิ้งไว้ให้อนาคตสักหน่อย
อ่านแล้วรู้ไว้เลยว่า "ธรรมชาติก็คือธรรมชาติ"

>>หากวันที่เรากลับมาอ่าน เราไม่มีความคิดแบบนี้แล้ว
ไม่ว่าเราจะพบผ่านอะไรมา จงพิจารณาข้อความนี้อีกครั้ง
"ธรรมชาติต่อให้ผิดเพี้ยนเพียงใด ธรรมชาติมีวิธีแก้ไขได้ด้วยตัวเองเสมอ"
นับภาษาอะไรกับตัวเรา เราเองก็ต้องกลับคืนสู่ธรรมชาติ ไม่ช้าก็เร็ว
ในขณะที่เราเปลี่ยนตามกาลเวลา จงหยุดหมุนแล้วสงบสติลง
เปิดใจกลับมาอีกครั้ง เมื่อใจเรานิ่ง ทุกอย่างจะนิ่งได้เอง
คำนึงถึงธรรมชาติในตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้
แล้วจะเจอทุกคำตอบในนั้น

>>หากวันที่เรากลับมาอ่าน เรามีความแตกฉานในเรื่องนี้มากขึ้น
"จงอย่าหยุดเดินทาง เขียนและบันทึกข้อความ ส่งต่อให้คนรุ่นใหม่ต่อไป"
บันทึกเอาไว้ว่าธรรมชาติให้อะไรเราบ้าง
ธรรมชาติอยู่ในทุกๆคนและรอบตัวทุกๆคน

ปล. ความเชื่อก็คือความเชื่อ ใครจะเชื่อเช่นไรไม่สำคัญ เราเชื่อเช่นนี้แล

“ Study nature, love nature, stay close to nature. It will never fail you. ” : Frank Lloyd Wright

Goodluck,

Introvert man.