Saturday, June 29, 2019

บันทึก : ความคิด : เวลาและหัวโขน

(photo : sereesolution.com)
(ถ้าในสมัยนี้เด็กเหล่านี้จะโดนสังคมประนามอะไรไหม?
ยุคสมัยเปลี่ยนหลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนไป
เราเพียงยึดติดและสร้างกฏเกณฑ์ที่จับต้องไม่ได้ขึ้นมา
เพียงเพื่อทำให้บางอย่างสูงค่าและบางอย่างด้อยค่าลง)



เรานั่งคิดย้อนไปหลายๆคนที่เราได้พูดคุย
ทั้งในโลกออนไลน์และพบปะพูดคุยกัน
มีทั้งเทรดเดอร์ที่เทรดมานานแต่ไม่ประสบผลอะไรมากมาย
และเทรดเดอร์ที่ผันตัวเองไปเป็นอย่างอื่นๆ
เช่น โค้ช อาจารย์ ผู้แนะนำการลงทุน ต่างๆ
หากินกันโบรค หรือหากินกับเทรดเดอร์ก็ตาม

เรามองเห็นสิ่งหนึ่งที่บุคคลเหล่านี้มีคล้ายๆกัน
(ออกตัวก่อนว่าเราคิดเอง และไม่ได้หมายความว่าเราถูก)
คือ คนเหล่านี้พยายามจับปลาหลายมือ
ถ้าหลายมือเพื่อเอาตัวเดียวยังโอเค
แต่ส่วนใหญ่เลยหลายมือแล้วก็จะเอาให้ได้ทุกมือ

เทรดเดอร์ที่เริ่มเทรดมาพร้อมๆเรา
ทุกวันนี้ก็เห็นแยกย้ายกันไปตามสายทาง
น้อยมากที่จะยังคงเทรดเลี้ยงชีพอยู่
แต่ก็ต้องยอมรับว่า95%แก่กว่าเราหมดเลย
เค้ามีภาระในชีวิตต้องรับผิดชอบต่างกันไป
เราถึงบอกว่าเรื่องพวกนี้เข้าใจได้ ยืนพื้นบนความจริง
ธุรกิจโบรคเกอร์นั้นไม่ผิด แต่คนผิดชอบใช้เป็นข้ออ้าง
-------

แต่วันนี้จะมาพูดถึงว่าทำไม?
ทำไมเค้าเหล่านั้นถึงว่ายน้ำวนอยู่ในอ่าง
สาเหตุก็กล่าวไปแล้วข้างต้น โลภแต่ไม่อยากเสี่ยงอะไร
และสำคัญคือ ใช้เวลาเสียประโยชน์
เวลาที่ควรศึกษาหาข้อมูลดันเอาไปเทรดเสียเงินหมด
เวลาที่เทรดเสียดันไม่ยอมรับความผิด ตามหาสูตรลัดเทพเจ้า
พอหาสูตรไม่พบ ก็ย้ายสายไปหากินกับคนใหม่ต่อไป

จะเห็นได้ว่าเค้าผิดพลาดมาตั้งแต่เริ่มแรก
เค้ามองรูปแบบของเวลาผิดไป
"เร่งเวลาโดยปราศจากตัวเร่งที่ดี"
ทำให้ไม่เกิดสมดุลในธรรมชาติ
ผลตอบแทนจึงไม่เกิด หรือเกิดได้ก็ไม่งามนัก
เหมือนการปลูกต้นไม้ หรือเลี้ยงหมู
แล้วก็พยายามอยากให้พวกมันโตไวๆ
โดยใส่สารเร่งผิดชนิด หรือไม่ใส่สารเร่งเลย
แล้วก็รอ สุดท้ายเราๆก็รู้กันอยู่
ว่าผลลัพธ์มันจะออกมาไม่สวยแน่นอน

ในเมื่อธรรมชาติสอนเราแล้ว
เราควรเอามาคิด เปิดมุมมอง
แล้วไตร่ตรองใหม่ ว่าเรากำลังทำอะไร
เวลาที่เสียไป คุ้มค่าหรือยัง
ไม่ใช่คุ้มค่ากับตัวของคุณเองนะ

แต่มันคุ้มค่ากับสิ่งที่คุณต้องการแล้วหรือยัง
ถ้ายังไม่คุ้มค่า คิดหรอว่าสิ่งที่คุณต้องการนั้น
คุณจะได้มันมา คุณรู้อยู่แล้ว
เราเชื่อว่าทุกคนรู้
ตอนนี้
ก็เหลือเพียงแค่ "ทำ"
รู้แล้วไม่ทำก็เท่านั้น
ขอให้พลังสถิตแก่ผู้ลงมือทำทุกท่าน
----------

คุณเรียนรู้อะไรบ้างแล้ว5ปีที่ผ่านมา
เวลาคุณเป็นเวลาคุณภาพหรือเวลาไร้ประสิทธิภาพ
ยอมรับความเจ็บปวดถ้ามันจริง
แล้วพัฒนาหลักการตามที่ลุงเรย์ว่าไว้
ให้ความเจ็บปวดมันสอนเรา ไม่ใช่ขี่หลังเรา

แล้วโดยเฉพาะคนที่เทรดมามากกว่า7ปีแล้ว
คุณต้องยอมรับกับตัวคุณเองตรงๆ ด้วยความสัตย์
ว่าคุณก้าวหน้าขึ้น หรือยังอยากจับหลายมืออยู่
มันไม่ใช่ความล้มเหลวที่จะพังชีวิตคุณ
แต่มันจะพาคุณไปข้างหน้า เพียงคุณยอมรับ
ยอมรับกับตัวเอง
ยอมรับความจริงครับ
ไม่ต้องกลัวกับแค่คำที่คนอื่นเรียกคุณว่า "โค้ช อาจารย์ หรือ ดร."
ไม่ว่าคำไหนนำหน้า คุณก็สามารถยอมรับว่าคุณ"อ่อน"ได้

หัวโขนพวกนั้นคุณต้องสละให้ได้
อย่างในหนังเรื่องInterstellar
ที่พระเอกบอกว่า
“Newton’s third law. You gotta leave something behind.”
หรือแปลตามที่เค้าแปลก็คือ
"กฎข้อที่สามของนิวตัน วิธีเดียวที่มนุษย์จะหาทางไปที่ไหนสักที่ได้ ก็คือการทิ้งบางสิ่งไว้เบื้องหลัง"
ถ้าคุณไม่เสียสละอะไรเลย
คุณยิ่งยากที่จะพัฒนาตัวเองไปได้
(ยกตัวอย่างหนังทำไมก็ไม่รู้)

เช่นนั้นเรามองว่าคนที่มีหัวโขนเนี่ย
จะทำให้ติดกับดักตรงนี้ได้ง่ายมากๆ
และพัฒนาตัวเองไปได้ช้ากว่าคนทั่วไปมากๆ
(วัดเป็นตัวเลขไม่รู้ มโนเอาว่าหลายสิบเท่ามั้ง)

ด้วยรักและเป็นห่วง
เราได้เพียงภาวนาให้เพื่อนมนุษย์เรา
ไม่อคติกับเรา และเข้าใจความรู้สึกดีๆจากเรา
อย่าลืมทุบกำแพงความคิดไปพร้อมๆกับเรากัน
เราก็ไม่ได้เลอค่าไปกว่าใคร
จับมือเดินไปพร้อมกันนะครับ



ปล. เรื่องพวกนี้จริงๆเขียนไปมากแล้ว แต่ก็ยังขอเขียนต่อไป เขียนจนกว่าจะไม่มีแรง
ปล2. ไม่ได้หมายความว่าคนแก่ล้มเหลว คนหนุ่มสำเร็จนะ วัยวุฒิแทบไม่เกี่ยวเลย การเรียนรู้ในช่วงวัยนั้นต่างหากที่ส่งผลถึงทั้งหมด
ปล3. ไม่มีเจตนากล่าวว่าผู้ใด ให้เข้าใจได้ว่าทั้งหมดเป็นเรื่องแต่งขึ้น เพื่อความสบายใจของแต่ละคนสามารถจินตนาการเป็นบุคคลใดก็ตามแต่ใจรักหลงได้เลย

















“ Do not go gentle into that goodnight. Old age should burn and rage. Rage,rage against the dying of the light. ” :  Dylan Thomas


Goodluck,
Introvert man.

No comments:

Post a Comment