กว่าจะครบ250กิโล เล่นเอาเหนื่อยไปเลย
เราวิ่งไม่เยอะนะ วิ่งเอาสุขภาพ(มั้ง)
ช่วงหลังๆมานี่อยู่ราวๆ 3-4กิโลต่อวันเพราะพักบ่อย
และติดข้ออ้างต่างๆมากเกินไป วินัยหาย
พักนานแล้วกลับมาวิ่งเลยทำให้เหนื่อยง่าย
และรับรู้ได้เลยว่าร่างกายอ่อนแอลงกว่าเดิม
ยังดีที่สามารถทำตามเป้าหมายที่วางไว้ได้
ตอนแรกนึกว่าจะราวๆสิ้นเดือนพอดี
แต่ทำได้ก่อนสิ้นเดือนก็ดีใจเหมือนกัน
ช่วงนี้อากาศแห้งๆ ลมเย็นดีด้วย
ทำให้ออกไปวิ่งได้บ่อยขึ้น
ดีกว่าฝนตกเยอะเลย ฮ่าๆ
ช่วงฝนตกนี่ อื้อหือ ออกไปแปปเดียวเละเลย
แต่ช่วงอากาศหนาวๆนี่เราก็ไม่ค่อยสู้ดีเช่นกัน
ข้ออ้างอีกแล้ว แต่ก็นั่นแหละภูมิแพ้มันไม่แคร์เราเลย
ได้วิ่งก็ดีขึ้น แต่เดียวเย็นๆค่ำๆอาการมันก็มาอีกแหละ
ตามเวลาเลย อดทนกันต่อไป
ทำให้ออกไปวิ่งได้บ่อยขึ้น
ดีกว่าฝนตกเยอะเลย ฮ่าๆ
ช่วงฝนตกนี่ อื้อหือ ออกไปแปปเดียวเละเลย
แต่ช่วงอากาศหนาวๆนี่เราก็ไม่ค่อยสู้ดีเช่นกัน
ข้ออ้างอีกแล้ว แต่ก็นั่นแหละภูมิแพ้มันไม่แคร์เราเลย
ได้วิ่งก็ดีขึ้น แต่เดียวเย็นๆค่ำๆอาการมันก็มาอีกแหละ
ตามเวลาเลย อดทนกันต่อไป
ขึ้นไปอยู่ที่7 แอบเสียใจ แต่ก็นะ
ถ้า 6:59 คงดีใจกว่านี้นิดนึง หุหุ
หลังจากนี้ก็คงพักยาวๆจนปีหน้าเลย
ให้ร่างกายพักบ้าง (พักอีกแล้ววววว)
หรือถ้าเปลี่ยนใจคงมีวิ่งเพิ่มตามอารมณ์
ปล. เราเองอายุไม่มากเลยแต่โรคประจำตัวเยอะ อยากขอเน้นว่าการไม่มีโรคคือลาภอันสูงสุดจริงๆ
ปล2. ไม่มีใครอยากเกิดมาเป็นโรค หรือพิการแน่ๆ ขอบคุณMudleyด้วยที่ให้โอกาสบุคลากรที่ขาดโอกาสเหล่านั้น
“ Laziness is nothing more than the habit of resting before you get tired. ” : Jules Renard
Goodluck,
Introvert man.
No comments:
Post a Comment