น้ำ : หวาน : อัดลม : เมา : ใจ

(Photo : healthandtrend.com)

งดน้ำอัดลมมาได้35วันแล้ว
มีกินน้ำหวานเล็กน้อย
แต่น้ำที่อัดแก๊ส อัดลม งดเลย

กรดไหลย้อนเริ่มไม่เป็นแล้ว
หลังจากงดมาราวๆ1เดือน

ตั้งแต่เด็กยันโตจำได้ว่าชอบกินมากๆ
และแม่ห้ามไว้บ่อยๆ แต่แน่นอนยังคงแอบกิน
พอมีโอกาสก็กินตลอด จนได้ออกมาใช้ชีวิตเอง
ก็กินแทนน้ำเปล่าเลย น้ำเปล่าคือไม่เอาเลย
น้ำอัดลมไม่เย็นก็เอา ดีกว่าน้ำเปล่า (แต่ถ้าเย็นๆจะดีมากเลย)

ซึ่งก็เมื่อเร็วๆนี้พึ่งจะคิดได้ว่าควรพอ
เรากินแทนน้ำเปล่ามาเท่าที่คิดออกก็คงสัก5ปีได้มั้ง
(คือกินแทนน้ำเปล่าเลยนะ น้ำเปล่าคือไม่เอาเลยถ้าไม่จำเป็น)
เราว่าไม่นานนะ ฮ่าๆ คิดเข้าข้างตัวเองไว้ก่อน
หลังๆพอเริ่มออกกำลังกายประจำ
เราเลยรู้สึกว่าควรต้องงดแล้ว
บวกกับกรดไหลย้อนก็เป็นบ่อยมากขึ้น
ทำให้เราเริ่มจริงจังกับการกิน
(จริงจังของเราก็คงไม่จริงจังเท่าไหร่)

เราไม่ได้คุมอาหารถึงขั้นต้องนับcalหรืองดแป้งงดมัน
แต่กินแป้งกินมันเหมือนเดิม
เพียงแต่ไม่กินมากเกินไป หรือรสจัดเกินไป
เค็มจัด(ซึ่งเราติดกินเค็มเผ็ดมานานแล้ว)
หวานจัด เปรี้ยวจัด มันจัด
พยายามกินให้รสอ่อนลง
แต่ยังหยุดส้มตำปูปลาร้าไม่ได้นะ ของดี!คงหยุดยากหน่อย

น้ำหนักลดลงนิดหน่อยกับการงดน้ำอัดลม(หรือเพราะวิ่ง คงทั้งสอง)
ยังคงมีความรู้สึกอยากจิบ อยากกินอยู่
เหมือนตอนงดบุหรี่เลย แต่เลิกไปได้2-3ปีแล้วละ
คิดว่าน้ำอัดลมก็คงทำได้ แต่จะมีอนุโลมบ้าง
ให้ตัวเองกินได้ในแต่ละวาระโอกาสไปมากกว่า
คงไม่โหดเหมือนบุหรี่ รายนั้นเลิกแล้วไม่เอาอีกเด็ดขาด
ส่วนเหล้าเบียร์(เราแพ้ กินแล้วตัวแดงเลย)
เราเลิกมาพักใหญ่แล้วละ ก่อนเลิกบุหรี่ด้วยซ้ำ
เลยไม่พูดถึงแล้ว เพราะอันนั้นไม่ได้เข้าขั้นเสพติด

สิ่งที่รู้สึกได้เลยว่าดีขึ้นคือ กรดไหลย้อนดีขึ้น
ประหยัดเงินมากขึ้น และเราดีใจที่ทำได้ ขอบันทึกเอาไว้ก่อน
เพราะไม่คิดว่าชีวิตจะขาดน้ำอัดลมได้เกิน1เดือน
จริงๆ3วันก็ลงแดงแล้ว

ปล. ตอนแรกว่าจะทำสักครึ่งปีก่อนค่อยว่ากัน แต่บันทึกเอาไว้ก่อนดีกว่า เดียวลืม
ปล2. หวังว่าจะเลิกได้ตามที่ตั้งใจไว้ ถ้าทำไม่ได้ก็จะมาบันทึกไว้เช่นกัน

“ First you take a drink, then the drink takes a drink, then the drink takes you. ” : F. Scott Fitzgerald

Goodluck,

Introvert man.